ยาย 75 วิ่งเข้าธนาคาร “เขียนข้อความ” ยื่นให้พนักงาน รอดโดน “โกง” นึกว่าหนังอาชญากรรม!

หญิงวัย 75 วิ่งเข้าธนาคาร “เขียนข้อความ” ยื่นให้พนักงาน รอดฉ้อโกง 1.7 พันล้าน ดราม่าราวกับหนังอาชญากรรม!

คุณหวู่ หญิงวัย 75 ปี ที่อาศัยอยู่ในต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน หลังเกษียณอายุมีเงินบำนาญพอสมควร เพียงพอสำหรับเธอที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าครองชีพรายวัน ทุกวันเธอชอบออกไปเดินเล่น มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง และใช้ชีวิตวัยเกษียณอย่างสงบสุข

แต่ชีวิตที่เรียบง่ายเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย บุคคลที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสายอ้างว่าเป็น “เจ้าหน้าที่จากกรมตำรวจมณฑลกวางตุ้ง” เธออดไม่ได้ที่จะแปลกใจและสับสนกับข้อมูลที่ชายคนนั้นให้มา เขาแจ้งว่าสำนักงานความมั่นคงสาธารณะประจำมณฑลกวางตุ้ง กำลังสืบสวนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในต่างประเทศ รวมถึงการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารหลายบัญชี และบัญชีของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น

ชายคนดังกล่าวแจ้งว่าเนื่องจากบัญชีของเธอถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับความผิดทางอาญา จำเป็นต้องโอนเงินในบัตรไปยังบัญชีที่ตำรวจกำหนดเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ แม้เธอจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล แต่ก็อดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจเมื่อชายคนนั้นส่งรูปถ่ายที่มีข้อมูลส่วนตัวครบถ้วนของเธอ รวมทั้งส่ง “หมายจับ” มาให้ด้วย เน้นย้ำว่าหากเธอไม่ปฏิบัติตาม จะถูกตามตัวและจับกุม

คุณหวู่รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งต่อภัยคุกคามนี้ และในที่สุดก็ตัดสินใจจะโอนเงินออมทั้งหมดของเธอซึ่งมีมูลค่าสูงสุดถึง 500,000 หยวน (มากกว่า 2.36 ล้านบาท) ให้กับคนที่เธอเชื่อว่าเป็น “ข้าราชการ” อย่างไรก็ดี เนื่องจากเธอยังสงสัยในคู่สนทนา เมื่อเดินทางไปธนาคารเพื่อจะโอนเงิน แทนที่จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตามปกติ เธอจึงเลือกเขียนลงในกระดาษแล้วยื่นให้ว่า “อย่าพูดกับฉัน ฉันกำลังถูกติดตาม” ในตอนแรกเจ้าหน้าที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำขอของเธอ แต่แล้วก็เข้าใจสถานการณ์และรีบรายงานไปยังแผนกรักษาความปลอดภัยของธนาคาร

ภายใน 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงธนาคาร คุณหวู่ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก คิดว่าตนเองกำลังจะถูกจับกุม แต่ด้วยคำอธิบายและความมั่นใจของเจ้าหน้าที่ธนาคารและตำรวจ ทำให้เธอค่อยๆ กลับมามีความสงบอีกครั้ง ก่อนถูกพาไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ข้อมูล อย่างไรก็ดี เนื่องจากหมายเลขโทรศัพท์ของผู้หลอกลวงเป็นหมายเลขต่างประเทศ การสอบสวนและค้นหาที่มาของการหลอกลวงจึงกลายเป็นเรื่องยากและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

เหตุการณ์นี้ถือเป็นการปลุกกระแสการป้องกันการฉ้อโกง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และไม่สามารถแยกแยะข้อมูลจริงและข้อมูลปลอมได้ ผู้คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงมากต่อการหลอกลวงที่มีความซับซ้อนเช่นนี้ ดังนั้น นอกจากการสืบสวนและจับกุมผู้ฉ้อโกงแล้ว ยังจำเป็นต้องมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการฉ้อโกง เพื่อให้ทุกคนมีความรู้และความมั่นใจเพียงพอในการป้องกันตนเองจากสถานการณ์อันตรายที่คล้ายคลึงกัน