จากกรณีการจับกุม ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา อดีต รอง.สว.สส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังถูกออกหมายจับ ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป, โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นโดยประการใดๆ หรือรับของโจร
โดยผู้ต้องหา 10 คน ซึ่งถูกตำรวจ สภ.บางละมุง จับกุมได้ก่อนหน้านี้และให้การซัดทอดว่า ร.ต.อ. รายนี้ เป็นคนสั่งให้เข้าไปลักเครื่องจักรขนาดใหญ่ หม้อแปลงไฟฟ้า รถบดถนน มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ภายในโรงงานรับซื้อของเก่าบริษัท เปเปอร์มิ้นท์ หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สร้างความเสื่อมเสียให้วงการตำรวจอย่างมาก
ล่าสุดวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ห้องสืบสวน สภ.บางละมุง พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. (รรท.ผกก.สภ.บางละมุง), พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง.ผกก.สส.สภ.บางละมุง ได้ร่วมกันสอบปากคำ ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา อายุ 47 ปี อดีต รอง.สว.สส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากคุมตัวมาจากจังหวัดอุดรธานี มาทำการสอบปากคำนานร่วม 2 ชั่วโมง
เบื้องต้น ร.ต.อ.ไอศูรย์ ให้การภาคเสธ ลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ โดยอ้างว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ นายต้น ซึ่งอ้างว่าเป็นหลานเจ้าของโรงงานที่เกิดเหตุ ได้ติดต่อมา ให้มารับซื้อของเก่า ประเภทหม้อแปลงไฟฟ้า จึงพาทีมงานมายกหม้อแปลงลง แล้วชำแหละแยกชิ้นส่วน จากนั้นนำลวดทองแดงไปขาย ได้เงินมาทั้งหมด 50,000 บาท ก่อนจะนำเงินไปแบ่งให้กับทีมงาน ส่วนที่เหลือ นำไปให้ภรรยา (อ้างว่าเป็นภรรยาน้อย) โดยเหลือเงินมาถึงตนเองเพียง 4,000-5,000 บาทเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในโรงงาน ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังยอมรับว่า ตนเองมีปัญหาด้านการเงิน
ต่อมา นายนเรศ เจ้าของโรงงานรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาพูดคุยกับ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยทั้งคู่มีการเผชิญหน้ากัน และพูดคุยกันนานกว่าครึ่งชั่วโมง โดยฝ่าย ร.ต.อ.ไอศูรย์ ได้ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมทั้งเจรจาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
ต่อมา พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. (รรท.ผกก.สภ.บางละมุง), พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง.ผกก.สส.พร้อม พนักงานสอบสวน และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย คุมตัว ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ บริเวณด้านหลังโรงงานที่เกิดเหตุ โดยมีการพาไปชี้จุด เสาไฟฟ้าแรงสูง ที่มีการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า 3 เฟส ขนาด 250 กิโลโวลต์ และจุดที่มีการชำแหละ และปลอกลวดทองแดง เพื่อนำไปขาย โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะควบคุมตัวกลับมายัง สภ.บางละมุง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม แล้วนำตัวส่งศาลจังหวัดพัทยาทันที
ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา กล่าวว่า อยากขอโทษผู้บังคับบัญชา ขอโทษสังคมในสิ่งที่ทำลงไป จนทำให้องค์กรตำรวจเสียหาย ซึ่งตนเองก็ยอมรับผิด อีกทั้งตนเอง ถูกนายต้น ที่อ้างตัวเป็นหลานเจ้าของโรงงาน หลอกให้มาก่อเหตุ และไม่ได้มีเจตนาจะลงมือทำกระทำความผิด ยอมรับว่าเครียด ไม่คิดว่าตัวเองจะมาตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง