เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผกก.สภ.บางปะกง พ.ต.ท.นพดล ทวีชาติ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง นายเสกสรรดิ์ กัลหา ผู้ช่วยหมวดทางหลวงบางปะกง แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลท่าข้าม ได้ตรวจสอบเหตุเรือโป๊ะชนตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.50 ช่องคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี หมู่ 13 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะนำเรืออิระวดี ออกไปกลางแม่น้ำบางปะกง เพื่อสำรวจความเสียหายของตอม่อสะพาน
พบว่าเสาตอม่อด้านนอกสุดที่ค้ำคานสะพานช่วงที่เป็นฟุตบาทและอยู่เลนซ้าย ถูกชนจนหักจนเอนและเห็นเหล็กโผล่ชัดเจน และขยับออกจากแนวคานสะพาน และยังพบว่ามีเสาตอม่ออีก 1 ต้นที่อยู่ใกล้เคียงกันถูกเรือชนเมื่อ 2 ปีก่อน ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนเรือที่ชนได้ไปจอดใกล้เคียงท่าเรือคาซาว่า หมู่ 1 ต.บางปะกง พบเรือลากจูง สีเขียว ชื่อ โชคหิรัญพัฒนา เลขทะเบียนเรือ 500053317 โดยมีนายปรัชญา มีเฟือง อายุ 27 ปี กัปตันเรือ และน.ส.เจนจิรา ดวงแก้ว อายุ 34 ปี ภรรยากัปตันเรือ
โดย น.ส.เจนจิรา เผยว่า ช่วงที่ลากเรือออกมาเป็นช่วงน้ำลงและมีกระแสน้ำไหลแรง ตนพยายามลากเรือเข้าล่องน้ำเพื่อลอดสะพาน แต่เรือเกิดบังคับไม่อยู่ก่อนจะไหลออกมาไปชนเสาตอม่อสะพานเต็มแรง ซึ่งเป็นเรือโป๊ะบรรทุกสินค้า ภูมิพัฒน์มาริน 1 เลขทะเบียนเรือ 510085421 ที่มีนายบุญหลาย กาญจนพันธ์ อายุ 58 ปี เป็นสรั่งเรือโป๊ะลำที่ชนเป็นลำแรก ให้การว่า ขณะที่ตนอยู่หัวเรือก่อนจะลอดสะพาน เรือเบรกไม่อยู่เพราะน้ำไหลแรง และเรือที่ดึงท้ายนั้นดึงไม่ทัน ก่อนจะไหลชนอัดเสาตอม่อดังสนั่นหวั่นไหว
เบื้องต้น นายเสกสรรดิ์ กัลหา ผู้ช่วยหมวดทางหลวงบางปะกง เผยว่าต้องประสานไปยังศูนย์สะพานเพื่อดำเนินการสำรวจความเสียหาย ตัวโครงสร้างของสะพาน และประเมินการซ่อมแซม มูลค่าความเสียหายทั้งหมดแต่เบื้องต้นได้ประสานกับทางตำรวจ สภ.บางปะกง ในการจัดการจราจร และจะนำแบริเออร์ กรวยยาง สัญญาณไฟ มากั้นเลนซ้ายของสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ไป 1 เลน เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและการเทน้ำหนักของรถบรรทุกที่ใช้เส้นทาง ซึ่งจะเหลือ 2 ช่องทางในการสัญจร