กรณี ไฟไหม้บ้านหลังหนึ่ง ในบ้านพักกรมชล ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี โดยเจ้าของห้องที่เกิดเหตุ เป็นสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ซึ่งบอกว่า ในห้องพักมีเงินสด 5 แสนบาท วางไว้ที่พื้น ตรงจุดที่ไฟไหม้ พอมาดูซากไฟไหม้ กลับไม่พบเศษกระดาษซากเงินเลย เรื่องราวซับซ้อนกว่าเดิม เมื่อวันรุ่งขึ้น สามีภรรยาไปแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ในวันรุ่งขึ้นอีกว่า เงินหายไปจากบ้านที่เกิดเหตุ 10 ล้านบาท

สองสามีภรรยาคือ นางสาวนิตยา อายุ 28 ปี และนายฤทธิกร อายุ 32 ปีเล่าว่า ขณะเกิดเหตุออกไปทำธุระกับครอบครัว เพื่อนบ้านโทรแจ้งว่าไฟไหม้บ้าน จึงรีบกลับมา ซึ่งในห้องนอนโดนเพลิงไหม้จนหมดไม่เหลืออะไรเลย และในห้องนอนได้เก็บเงินสดเอาไว้ 5 แสนกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย ถูกไฟไหม้จนหมดไม่เหลืออะไรเลย

นายนิธิรัตน์ เล้ารัตนอารีย์ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนนทบุรี ศูนย์วารี ที่เข้าไปจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนได้รับแจ้งเหตุประมาณ 14.00 น. และเข้าพื้นที่ในเวลาประมาณ 14.10 น. โดยมีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้าหน้างาน 5-10 คน ซึ่งตนเป็นคนเก็บของและรื้อของออกมา แต่เราไม่เห็นเงิน

เมื่อไปถึงมีชาวบ้านเปิดประตูเข้าไปในบ้านแล้ว และช่วยกันดับไฟ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ และช่วยสุนัข 4 ตัว ตอนนั้นเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ เมื่อมาถึงก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องเงิน ซึ่งตนห้าม ไม่ให้คนนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง และได้มีการให้ตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

มาทราบภายหลังว่ามีเงินหายกว่า 10 ล้าน แต่พวกตนไม่เจอแม้กระทั่งเศษเงินภายในบ้าน เจอแค่ แบงก์พันจำนวน 4 ใบที่ถูกไฟไหม้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งต้นเพลิงอยู่ตรงหัวเตียงและไหม้ใต้ที่นอนในห้องนอนชั้นล่าง ภายในห้องมีปลั๊กพ่วงหลายอัน ซึ่งตนมั่นใจว่าหากเจ้าของบ้านมีเงินขนาดนั้นจริงและถูกเพลิงไหม้ จะต้องเหลือเศษเถ้าถ่าน ขนาดหนังสือไหม้ยังเหลือชิ้นส่วนให้เห็น ส่วนชุดดับเพลิงมาตรฐานจะเป็นแบบนี้ ถ้าพูดเรื่องเก็บเงินทำไม่ได้อยู่แล้ว มีหน้าที่แค่ดับไฟ ไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องอื่น ตามปกติแล้วหากเจอของที่มีมูลค่าจริงๆ ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกเจ้าของบ้านแล้วส่งมอบให้ตอนนั้นเลย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่บางส่วนก็เสียขวัญกำลังใจไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามตนและน้องๆ ก็จะยืนยันทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เผยว่า ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ส่วนต้นเพลิงในที่เกิดเหตุมีส่วนที่เป็นไฟฟ้า คือปลั๊กไฟและปลั๊กพ่วงวางอยู่ตรงนั้น แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าหรือเกิดจากสิ่งของอย่างอื่น ตอนนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บร่องรอยเพื่อมาประกอบสำนวน ตอนนี้ยังมีหลายประเด็นที่น่าสงสัยว่าเรื่องไฟไหม้เป็นไปตามที่แจ้งจริงหรือไม่

ทางผู้เสียหาย มาแจ้งความไว้ว่ามีเงินหายจำนวน 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบบริเวณรอบๆ บ้านไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งต้องขยายความเชื่อมโยง ความเกี่ยวข้องในหลายด้าน และเส้นทางการเงินต่างๆ มีช่องทางที่จะพิสูจน์ได้อีกหลายทาง ตอนนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาในเรื่องของบัญชีม้า เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินมีจริงหรือไม่มีจริง ต้องทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ความจริงกระจ่าง การให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เรามีความสงสัยในทุกประเด็น ทุกอย่างจะต้องถูกตรวจสอบและพิสูจน์ความจริง ซึ่งหากเราพบว่ามีผู้กระทำความผิดทางกฎหมายก็จะดำเนินคดีทั้งหมด

หลังรับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเกิดเหตุไฟไหม้ห้องนอนภายในบ้านพัก ทำให้เงิน 10 ล้านบาท ที่วางไว้บนหัวเตียงนอนไหม้สูญหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจและพบว่ามีประเด็นที่น่าสงสัยหลายประเด็น เมื่อไปตรวจสอบภายในรถของผู้แจ้งที่จอดอยู่ใกล้กัน และพบเงินอยู่ในรถจำนวน 6.5 ล้านบาท ตำรวจได้ยึดเงินทั้งหมดไว้ทำการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าวว่าใครเป็นเจ้าของ จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้แจ้งได้บอกว่าเป็นคนรับเงินผ่านบัญชีมา มีนักธุรกิจนักลงทุนนำเงินมาผ่านบัญชี และเบิกเงินกลับไปคืนเจ้าของ

ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์กล่าวว่า เหตุการณ์นี้มีประเด็นน่าสงสัยอยู่หลายประเด็น จากการสอบถามผู้แจ้งเงินที่อ้างว่าถูกไฟไหม้สูญหายไปว่าจะถูกไหม้จริงหรือไม่ ตำรวจกำลังตรวจสอบทุกบัญชีและเส้นทางการเงิน ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับธุรกิจอะไร ต้องขอเวลาตรวจสอบ ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ

1.ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5,500 ฉบับ รวมเป็นเงินจำนวน 5,500,000 บาท บรรจุอยู่ในกระเป๋าผ้าสีดำ 1 ใบ 2.ธนบัตร ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1,000 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล โดยตรวจยึดได้ภายในรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีน้ำตาล ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เจ้าของรถคือ น.ส.นิตยา  ที่เป็นคนมาแจ้งความ

โดย น.ส.นิตยา ให้ปากคำว่า เงินดังกล่าวเป็นของ น.ส.เดียร์ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ได้ขอยืมบัญชีคนในครอบครัวตน ประกอบด้วย น.ส.นิตยา ผู้เสียหาย, นายฤทธิกร สามี, นายจุฬาพงศ์ พ่อสามี, นางรุ้งตะวัน แม่สามี และ น.ส.รุจิษยา น้องสามี เพื่อฝากเงินทั้งหมด 20.5 ล้านบาท จากนั้นจะให้กดเงินสดไปให้ น.ส.เดียร์ ซึ่งตนได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง บริเวณจุดที่ไฟไหม้ไม่พบเศษธนบัตรถูกไฟไหม้ คาดว่าเป็นเงินที่พบภายในรถยนต์ที่ผู้เสียหายแจ้งว่าหายไป จึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ

น.ส.นิตยาให้ปากคำว่า เงิน 20.5 ล้านบาท เป็นของ น.ส.เฟิร์ส ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ได้ให้ น.ส.เดียร์ ว่าจ้างโอนเงินประมาณ 20 ล้านบาท เข้าบัญชีคนในครอบครัวตนทั้งหมด 10 บัญชี จากนั้นให้ตนทยอยกดเงินสดออกจากบัญชีวันละ 3 ล้านบาท บัญชีละ 5 แสน จำนวน 6 บัญชี โดยจะขับรถตระเวนกดเงินตามห้าง หลังจากกดเงินออกมา ได้นำมาเก็บไว้ที่บ้านที่เกิดเหตุ 10 ล้านบาท เก็บในรถ 6.5 ล้านบาท และยังคงเหลือเงินในบัญชีอีก 1.5 ล้านบาท