ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน หน้าแรก

ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
หน้าแรก
ข่าวสังคม
ข่าวสังคม
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
12 ก.พ. 2568
แชร์ |

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ แบงก์ชาติ ยกระดับความปลอดภัย การใช้งานโมบายแบงกิ้ง ออกมาตรการสำคัญ มีผลภายใน 30 วันหลังประกาศ

เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 4/2568 เรื่อง “การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่” ซึ่งกำหนดมาตรการสำคัญเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน Mobile Banking ของสถาบันการเงินและป้องกันภัยทุจริตทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย โมบายแบงก์กิ้ง มีผลในอีก 30 วัน
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย โมบายแบงก์กิ้ง มีผลในอีก 30 วัน

ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน

เหตุผลในการออกมาตรการใหม่

ธปท. ระบุว่าปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีบทบาทสำคัญต่อระบบการเงิน โดย Mobile Banking ได้กลายเป็นช่องทางหลักที่ประชาชนใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์และการโจรกรรมข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน

มาตรการสำคัญที่ประกาศบังคับใช้ เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริต ธปท. จึงได้กำหนดแนวทางป้องกันที่สำคัญ ได้แก่:

จำกัดการใช้งาน Mobile Banking
ผู้ใช้บริการ 1 คน สามารถใช้งาน Mobile Banking ได้บนอุปกรณ์เพียง 1 เครื่องเท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

เพิ่มการยืนยันตัวตนในธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
ต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมเมื่อมีการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง หรือโอนเงินสะสมตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปต่อวัน เพื่อป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (Unauthorized Payment Fraud)

กำหนดวงเงินสูงสุดต่อวันตามระดับความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ
เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถทำธุรกรรมได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

มาตรการด้านความปลอดภัยของระบบ Mobile Banking
ธนาคารต้องมีการติดตามและปรับปรุงระบบ Mobile Banking ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

หลีกเลี่ยงการให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ตามที่หน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยกำหนด เช่น Thailand Banking Sector Computer Emergency Response Team (TB-CERT)

กำหนดเวลาการบังคับใช้
มาตรการทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข้อยกเว้ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
หน้าแรก
ข่าวสังคม
ข่าวสังคม
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
12 ก.พ. 2568
แชร์ |

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ แบงก์ชาติ ยกระดับความปลอดภัย การใช้งานโมบายแบงกิ้ง ออกมาตรการสำคัญ มีผลภายใน 30 วันหลังประกาศ

เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 4/2568 เรื่อง “การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่” ซึ่งกำหนดมาตรการสำคัญเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน Mobile Banking ของสถาบันการเงินและป้องกันภัยทุจริตทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย โมบายแบงก์กิ้ง มีผลในอีก 30 วัน
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย โมบายแบงก์กิ้ง มีผลในอีก 30 วัน

ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน
ประกาศราชกิจจาฯ เพิ่มความปลอดภัย “โมบายแบงก์กิ้ง” มีผลในอีก 30 วัน

เหตุผลในการออกมาตรการใหม่

ธปท. ระบุว่าปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) มีบทบาทสำคัญต่อระบบการเงิน โดย Mobile Banking ได้กลายเป็นช่องทางหลักที่ประชาชนใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์และการโจรกรรมข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน

มาตรการสำคัญที่ประกาศบังคับใช้ เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริต ธปท. จึงได้กำหนดแนวทางป้องกันที่สำคัญ ได้แก่:

จำกัดการใช้งาน Mobile Banking
ผู้ใช้บริการ 1 คน สามารถใช้งาน Mobile Banking ได้บนอุปกรณ์เพียง 1 เครื่องเท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

เพิ่มการยืนยันตัวตนในธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง
ต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมเมื่อมีการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง หรือโอนเงินสะสมตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไปต่อวัน เพื่อป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (Unauthorized Payment Fraud)

กำหนดวงเงินสูงสุดต่อวันตามระดับความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ
เช่น ผู้ใช้บริการที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี สามารถทำธุรกรรมได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

มาตรการด้านความปลอดภัยของระบบ Mobile Banking
ธนาคารต้องมีการติดตามและปรับปรุงระบบ Mobile Banking ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

หลีกเลี่ยงการให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีไซเบอร์ตามที่หน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยกำหนด เช่น Thailand Banking Sector Computer Emergency Response Team (TB-CERT)

กำหนดเวลาการบังคับใช้
มาตรการทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข้อยกเว้นบางประการ เช่น การหลีกเลี่ยงการให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูง จะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วัน

ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ มาตรการใหม่นี้คาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และทำให้การใช้บริการ Mobile Banking มีความปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการอาจต้องปรับตัวกับข้อจำกัดใหม่ โดยเฉพาะการใช้ Mobile Banking ได้เพียงเครื่องเดียวและต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในบางธุรกรรม

สรุป ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการใหม่เพื่อยกระดับความปลอดภัยของ Mobile Banking โดยจำกัดการใช้งาน 1 คน 1 เครื่อง กำหนดให้มีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในธุรกรรมที่มีความเสี่ยง และกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบธนาคารและอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศ เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์และสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ

นบางประการ เช่น การหลีกเลี่ยงการให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูง จะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วัน

ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ มาตรการใหม่นี้คาดว่าจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และทำให้การใช้บริการ Mobile Banking มีความปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการอาจต้องปรับตัวกับข้อจำกัดใหม่ โดยเฉพาะการใช้ Mobile Banking ได้เพียงเครื่องเดียวและต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในบางธุรกรรม

สรุป ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการใหม่เพื่อยกระดับความปลอดภัยของ Mobile Banking โดยจำกัดการใช้งาน 1 คน 1 เครื่อง กำหนดให้มีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในธุรกรรมที่มีความเสี่ยง และกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบธนาคารและอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศ เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์และสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ