ฝังร่าง “แม่พลอยทอง-พังฟ้าใส” บริเวณที่พบร่าง “พระครูอ๊อด” ร่วมทำพิธีส่ง บอกขอให้เกิดมาเป็นคนมีศีลธรรม ด้าน วอชด็อก เผยข้อมูลสุดสะเทือนใจ ระบุ “พังฟ้าใส” ความจริงรอดแล้ว แต่เสียสละว่ายน้ำไปช่วยแม่รับ “พังพลอยทอง” จนเสียชีวิตทั้งคู่
โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 6 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาพบร่างแม่พลอยทองและพังฟ้าใสล้ม (เสียชีวิต) หลังถูกน้ำป่าพัดพาในบริเวณพื้นที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งริมแม่น้ำแม่แตง
หลังจากนั้นในค่ำคืนวันที่ 6 ต.ค.67 ได้มีการฝังซากของช้างทั้งสองเชือก คือ แม่พลอยทองและพังฟ้าใสในบริเวณที่พบร่าง โดยมีการทำพิธีด้วยการนิมนต์พระมาสวด ก่อนใช้รถแบคโฮมาขุดหลุมฝัง และนำรถเครนมายกซากช้างไว้ในหลุม ซึ่งขั้นตอนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากซากต้นไม้ เศษไม้ และสวะอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่สุดท้ายก็สามารถฝังซากทั้ง 2 เชือกได้
พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน หรือ “พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง” อาจารย์ประจำ คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา (มมร) วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ หนึ่งในบุคคลเบื้องหลังที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือช้างที่ประสบภัยน้ำท่วมเชียงใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งท่านได้ไปร่วมทำพิธีฝังร่างของช้างทั้งสองเชือก ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง ว่า
ส่งพังฟ้าใส
และ พังพลอยทอง
#ขอให้เกิดมาเป็นคนมีศีลธรรม
ด้าน มูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวสะเทือนใจต่อการเสียชีวิตของช้างพังทั้ง 2 เชือกว่า
#พลอยทองเป็นแม่รับของฟ้าใส
และฟ้าใสก็เป็นดวงตาให้พลอยทองมาตลอดชีวิต
ที่จริงฟ้าใสรอดแล้ว…
แต่ด้วยความผูกพันของลูกและแม่รับ
คุณยายพลายทองซึ่งตาบอดทั้งสองข้างร้องเรียกหาลูก
ฟ้าใสจึงว่ายน้ำเข้าไปช่วยแม่
แล้วสองแม่ลูกก็ถูกน้ำพัดไปด้วยกัน
บัดนี้ สองแม่ลูกฟ้าใสและพลอยทอง…
ถูกฝังไว้เคียงข้างกัน
และไปอยู่บนสวรรค์ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วนะลูก
นอกจากนี้หลังเหตุการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่จนนำไปสู่การเสียชีวิตของช้าง ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการช้างบ้านเราออกมาแสดงความคิดเห็น ให้ข้อแนะนำ รวมถึงเสนอให้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อเป็นกรณีศึกษาไว้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา รับมือ หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต