จากกรณี ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี จนทำให้ครูและนักเรียนเสียชีวิตรวม 23 ราย ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจ่ายเงินประกันให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมมูลค่าเงินประกันกว่า 30 ล้านบาท แต่กลับมีเรื่องดราม่าการรับเงินประกันภัยก้อนนี้ เพราะบางครอบครัวผู้เป็นพ่อแม่ ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูผู้เสียชีวิต แต่กลับเป็นผู้ที่รับเงินประกันตามชอบด้วยกฎหมาย
อย่างเช่นกรณีของ “น้องปูอัด” หนูน้อยฮีโร่ที่วิ่งกลับเข้าไปช่วยเพื่อนเหตุรถบัสไฟไหม้ จนตัวเองต้องเสียชีวิต ที่ป้าและพ่อน้องเป็นคนเลี้ยงดูตั้งแต่อายุได้ 7 เดือน แต่แม่กลับมาทวงสิทธิ์รับเงินประกันชีวิต 1.2 ล้านบาทไปแทน หลังเป็นข่าวไม่ทันข้ามวัน ผู้เป็นแม่ทนกระแสไม่ไหวเปลี่ยนใจนำเช็คเงินมาคืน
ล่าสุดทาง แม่ของน้องปูอัด ได้ออกมาชี้แจงถึงดราม่าดังกล่าว โดยระบุว่า ตนเป็นแม่บังเกิดเกล้าน้องปูอัด ไม่ได้จดทะเบียนกับพ่อน้องปูอัด ทำให้ตนมีสิทธิเป็นผู้ปกครองเต็มที่ตามกฎหมาย หลังเลิกรากันญาติฝ่ายพ่อน้องปูอัดเป็นคนเลี้ยง แต่ตนไม่ได้ละเลยรับน้องไปนอนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตนเป็นอาสาสมัครกู้ภัย ยังเคยพาน้องออกสนามไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย ยืนยันไม่ได้ทิ้งน้องตามที่เป็นข่าว
ส่วนเช็คเงินเยียวยา 1.2 ล้านบาท ตนรับไปจริง ในวันนั้นตนมาพร้อมกับพ่อของน้องปูอัด หลังรับเช็คแล้วได้ยื่นให้พ่อน้องปูอัดทันที ส่วนซองเงินเยียวยาที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนมอบให้ในงานศพ ส่วนใหญ่เป็นญาติพ่อน้องปูอัดที่รับซองไป แต่ตนเคยรับอยู่ซองหนึ่ง รับเสร็จก็มอบให้กับของพ่อน้องปูอัดทันที เรื่องทั้งหมดญาติของพ่อน้องปูอัดทราบเรื่องมาโดยตลอด กลายเป็นว่าพอเกิดเรื่องดราม่าทั้งตนและญาติของพ่อน้องปูอัดก็แปลกใจมากว่าใครไปร้องเรียนสื่อ
ที่มาชี้แจงอยากให้กระแสโซเชียลยุติ เพราะต้องสูญเสียลูกอยู่แล้ว กลายเป็นถูกโซเชียลรุมด่า ตนไม่ได้ต้องการที่จะถามหาว่าใครเป็นคนเอาไปลง แต่ตนอยากขอความเห็นใจว่าลูกตนเสียชีวิตตนคือผู้สูญเสีย ถ้าไม่ชี้แจงกระแสคงแรงขึ้น แล้วไปกระทบกับการงานและความรู้สึกของครอบครัวผู้สูญเสียรายอื่น และเหตุการณ์ที่ลงข่าวก็ไม่ใช่ความจริง ซึ่งมันกระทบต่อจิตใจตนในขณะนี้ อยากให้มองมุมกลับกันว่าถ้าหากเป็นผู้ปกครองคนอื่นที่สูญเสียลูก แล้วมาโดนเหตุการณ์แบบนี้อาจจะไม่ได้เข้มแข็งแบบตนก็ได้