04 ต.ค. 2567การช่วยเหลือญาติเหยื่อรถบัสนักเรียนมรณะ ล่าสุดอธิบดีอัยการสคช. ระบุพบปัญหาเจออดีตพ่อ-เเม่ ที่ไม่ได้ดูเเลเด็กมาอ้างสิทธิรับเงินเยียวยา
4 ต.ค. 67 กรณีเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ โดย นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสคช. เปิดเผยความคืบหน้าว่า วันนี้ตนได้ทราบข่าวเเละได้รับการรายงานเเละเห็นภาพเหตุการณ์ที่ นายปกรณ์ เทศทำนุ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์อุทัยธานี เข้าไปทำหน้าที่ด้วยน้ำใจอัยการ
ซึ่ง นายปกรณ์ลงไปนั่งคุกเข่า คุยกับแม่ครูผู้เสียชีวิตในรถบัส เป็นภาพที่อธิบดีอัยการ สคช.อย่างตนเห็นแล้วต้องขอชื่นชม ที่เข้าพูดคุยให้กำลังใจ เป็นที่พึ่ง ซึ่งแม่ของคุณครูท่านกำลังเสียใจที่สูญเสียลูกไปในงานศพ ของนักเรียนและครู ที่ได้รับพระราชานุเคราะห์ ทางอัยการคุ้มครองสิทธิ์อุทัยธานี ได้ไปเป็นกำลังใจ ให้นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคุณครู รวมญาติผู้สูญเสีย ตั้งแต่รอรับศพ จนถึงพิธีศพที่โรงเรียน
เรื่องนี้แม้ภาครัฐจะยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือเยียวยาแต่กระบวนการที่จะให้ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจะต้องประกอบด้วยเอกสาร การรับรองเอกสาร การยืนยันตัวตน การเป็นทายาทของผู้ตายตามกฏหมายหากมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มกรอกเอกสาร จนถึงการรับเงิน อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิจังหวัดอุทัยธานี ยินดีช่วยดำเนินการให้ ขจัดปัดเป่าปัญหา
เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ตลอดจนครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ให้ได้รับการช่วยเหลือที่ถูกต้องและยุติธรรมตามกฏหมาย ต่อไปคุณครูที่เสียชีวิตอัยการก็ช่วยดูแลยื่นคำร้องขอจัดการมรดกให้ฟรี
เเต่จากที่ได้รับรายงานพบว่ามีบางรายปัญหาเริ่มเริ่มเกิดขึ้นแล้วคือนักเรียนที่เสียชีวิตบางคนอยู่กับบิดา แม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็กพ่อเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว และไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เเต่พอเกิดมีปัญหาว่าใครควรจะเป็นผู้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ปัญหาต่อมาคือเด็กบางคนอยู่กับ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือลุงป้าน้าอา ที่พ่อแม่ไม่ได้ดูแล
ตอนนี้เด็กเสียชีวิต ตอนพอจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ก็มีพ่อแม่กลับมาแสดงตนขอรับเงินนี้ไว้ ซึ่งตอนนี้เงินชดเชยเยียวยาเป็นจำนวนสูงมาก ตรงนี้อัยการคุ้มครองสิทธิ์จะช่วยดูแลให้ความเป็นธรรม ตามกฏหมายหรือสามารถช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในการขอรับเงิน ช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ และค่าเสียหายต่างๆอีก
อัยการคุ้มครองสิทธิ์ทำงานเชิงรุก เข้าถึงที่เกิดเหตุ ตามนโยบายเชิงรุกในการคุ้มครองสิทธิ์ช่วยเหลือประชาชนของท่านอัยการสูงสุด