หญิงวัย 44 ละเลย “สัญญาณหายนะ” จุดเล็กๆ บนหน้าอก ผ่านไปครึ่งปีกลายเป็นมะเร็งลุกลาม 4 อวัยวะ
นางเฉิน อายุ 44 ปี เมื่อปีครึ่งที่ผ่านมา เธอพบว่าที่เต้านมด้านขวามีแผลเล็ก ๆ เท่าลูกเกาลัด เธอไม่ได้ใส่ใจและใช้ครีมรักษาเอง แต่แผลไม่ดีขึ้น จึงหันไปใช้สมุนไพรและยาพื้นบ้านในการรักษา ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่ได้ผล แต่ยังทำให้อาการแย่ลงเรื่อย ๆ ในเวลาเพียงครึ่งปี ก้อนเนื้อได้ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่าลูกน้อยหน่า ใหญ่ผิดรูป และแผลยังคงเป็นหนอง มีเลือดซึมจนทำให้เสื้อผ้าสกปรก เธอเจ็บปวดจนเดินไม่ไหว แต่ปฏิเสธการไปพบแพทย์แม้ครอบครัวจะพยายามเกลี้ยกล่อม
จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา เธอเริ่มหายใจไม่ออกและลูกชายพาเธอส่งห้องฉุกเฉิน ซึ่งพบว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายที่ลุกลามไปยังปอดทำให้มีน้ำในเยื่อหุ้มปอด นอกจากนี้ยังพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังตับและกระดูก
แพทย์ หยาง เซิ่งรุ่ย จากแผนกศัลยกรรมทั่วไปและศัลยกรรมเต้านม โรงพยาบาลไถจง กล่าวว่ามะเร็งเต้านมยังคงเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิง โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ในอันดับสอง ที่สำคัญคือ มะเร็งเต้านมในระยะแรก (ระยะ 0-1) มักไม่มีอาการ ผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองในช่วงอายุที่เหมาะสม และตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังมีประจำเดือน 5-10 วัน เพื่อให้สามารถวินิจฉัยและรักษาได้ทันเวลา
แพทย์หยางยังกล่าวว่าในผู้หญิงเอเชีย มะเร็งเต้านมมักเกิดในช่วงอายุ 45-64 ปี แต่แนวโน้มในปัจจุบันพบว่ามีอายุน้อยลง โดยผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดที่พบคือเพียง 28 ปี สำหรับผู้ป่วยรายนี้เดิมไม่ได้เข้าข่ายตรวจคัดกรองด้วยการเอกซเรย์เต้านม แต่โชคดีที่ได้รับการตรวจชิ้นเนื้อและพบว่าเซลล์มะเร็งเป็นชนิด HER2-positive ซึ่งเข้าเกณฑ์การเบิกจ่ายยารักษาแบบมุ่งเป้าตามประกันสุขภาพ จากนั้นจึงเริ่มการรักษาด้วยการใช้ยามุ่งเป้าควบคู่กับเคมีบำบัด
เพียงสองเดือน ก้อนมะเร็งขนาดใหญ่เท่าลูกน้อยหน่าก็เริ่มตกสะเก็ด และน้ำในเยื่อหุ้มปอดได้รับการควบคุม เธอกลับมาหายใจสะดวกและเดินเองได้ ปัจจุบันเธอยังคงเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
แพทย์หยางย้ำว่า อย่ามองข้ามแผลผิดปกติที่เต้านม หากพบว่ามีก้อนเนื้อบริเวณรักแร้ แผลเรื้อรัง หรือเต้านมเปลี่ยนรูป เช่น หัวนมยุบ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด การรักษาในระยะแรกสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ถึง 80% ภายใน 5 ปี
นอกจากนี้ กรมสุขภาพยังได้ขยายช่วงอายุการตรวจคัดกรองด้วยการเอกซเรย์เต้านมสำหรับผู้หญิงเป็น 40-74 ปี เพื่อให้ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นสามารถตรวจพบมะเร็งในระยะแรกเริ่ม และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อปกป้องสุขภาพของตัวเองและสร้างความสุขให้ครอบครัว
