เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2568 สำนักข่าวต่างประเทศ SOHU ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวสุดช็อก ระบุว่า แพทย์หญิงรายหนึ่งในประเทศจีน และกำลังศึกษาระดับปริญญาเอกเธอมีอายุ 27 ปี มีหน้าตาสวยงาม เธอเป็นคนรักสะอาดมากและมีสุขอนามัยที่ดี เธอเข้ารับการตรวจร่างกายทุกปี ผลการตรวจร่างกายเมื่อปีก่อนก็เป็นปกตี แต่ปรากฏว่าผลการตรวจร่างกายครั้งล่าสุดทำเอาเธอช็อกอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแจ้งว่าเธอติดเชื้อ HIV
หลังจากทราบผล ลี่ (นามสมมุติ) หมอสาวรายนี้ รีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ปลายสายทันทีว่า ต้องมีบางอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน เพราะเธอเชื่อว่าเธอไม่มีทางที่จะติดเชื้อเอชไอวี เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ (AIDS) เพราะเธอมั่นใจว่าเธอไม่เคยมีปัจจัยเสี่ยงใด ๆ ที่จะติดเชื้อดังกล่าวนี้ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้เธอไปเช็กโดยละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาล
ลี่ ไปที่โรงพยาบาลด้วยความสับสนและวิตกกังวลอย่างหนัก ก่อนที่ผลตรวจจะยืนยันว่าเธอติดเชื้อเอชไอวีจริง เธอไม่อยากจะเชื่อ และรีบแจ้งกับทางแพทย์ที่เข้าพบว่า เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะติดเชื้อนี้ เธอรู้ว่าเชื้อเอชไอวีติดต่อได้ผ่านทางเลือด จากแม่สู่ลูก และการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเธอไม่เข้าข่ายที่ว่ามาทั้งหมด เธอไม่เคยบริจาคเลือด เป็นโสดมา 27 ปี ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และแม่ของเธอก็ไม่เคยมีประวัติ
ต่อมา ทางแพทย์ได้ซักถามลี่ว่า เธอเคยเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามบ้างหรือไม่ ซึ่งคำตอบของเธอคือไม่เคย แม้กระทั่งการสักคิ้วก็ไม่เคย จนกระทั่งเมื่อแพทย์ถามว่า แล้วขูดหินปูนล่ะ คุณไปดูแลช่องปากครั้งล่าสุดที่ไหน ลี่จึงบอกว่า เธอไปที่คลินิกเอกชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งตอนแรกเธอตั้งใจจะไปโรงพยาบาลใหญ่ แต่เนื่องจากคนเยอะ เธอจึงเลือกไปที่นั่น เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลารอนาน
เมื่อได้ฟังคำตอบ ทางแพทย์จึงบอกกับลี่ว่า ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับเชื้อมาจากการทำฟันที่คลินิกนั้น เนื่องจากที่คลินิกเล็ก ๆ บางแห่งไม่เหมือนกับโรงพยาบาล จะไม่มีการตรวจเลือดของผู้เข้ามารับการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ รวมถึงถอนฟัน หรือขูดหินปูนก็ตาม เพื่อตรวจเช็กว่ามีการติดเชื้อใด ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อหรือไม่ เช่น ซิฟิลิส เอชเอวีและไวรัสตับอักเสบบี นอกจากนี้ อุปกรณ์เครื่องมือทุกชิ้นจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อเป็นพิเศษ
ด้วยการสันนิษฐานตามข้างต้น ในกรณีของลี่จะเชื่อว่า เธอน่าจะได้รับเชื้อเอชไอวีมาจากคลินิกที่ไม่มีมาตรการที่เข้มงวด ขณะทำฟันเป็นปกติที่จะมีเลือดออก เมื่อเครื่องมือสัมผัสเลือดของคนไข้ที่มีเชื้อเอชไอวี เชื้อดังกล่าวก็สามารถติดต่อมาสู่คนไข้รายต่อไปได้ โดยหลังจากที่ได้ทราบต้นตอที่แท้จริง หมอสาวรายนี้รู้สึกเสียใจและรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเคสของหมอสาวรายนี้ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกตกใจและโกรธเคือง หลายคนพากันเข้าไปแสดงความเห็นใจเธอ และวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิคลินิกทำฟัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แนะนำว่า แม้แต่การทำหัตถการทางการแพทย์ง่าย ๆ เช่น การถอนฟัน ขูดหินปูน หรือการผ่าตัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียง มีใบอนุญาต และได้รับการรับรองด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยอย่างครบถ้วน อย่าเลือกสถานพยาบาลคุณภาพต่ำที่อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคอันตราย