เปิดจดหมาย “บอสพอล” ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว..

ความคืบหน้า คดีดิไอคอนกรุ๊ป ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2567 บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป (The iCon Group) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล โดยระบุข้อความว่า “สารจากเรือนจำฉบับที่ 2” ซึ่งมีใจความดังนี้

เปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียวเปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว

“ผมอยู่ในเรือนจำมาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว การใช้ชีวิตในเรือนจำ “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” สำหรับคนที่เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองแบบผม ผมเฝ้าถามตัวเองทุกๆวันว่า “ผมผิดอะไร”.. “ผมทำอะไรผิด” ถึงต้องเข้ามาอยู่ในนี้ อยู่แบบ “ไร้อิสรภาพ” และยังคงรอได้รับการประกันตัวออกไปเพื่อพิสูจน์ให้สังคมได้รับรู้ “ความจริง” จากปากของผมเอง ซึ่งเป็นคนที่ยังคงเชื่อในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม

วันนี้ผมต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า ผมกำลังสู้กับอะไรกันแน่? ผมต้องสู้อยู่ในนี้ ในที่ ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายบอก โดยไม่รู้ข่าวสาร ต้องเฝ้าถามและรอคอย คำตอบจากคำบอกเล่าของทนายที่เข้ามายี่ยมได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละวัน ผมบอกเล่าข้อเท็จจริง ฝากทนายความอ๋อง เพื่อไปสู่โลกกายบอก โดยการสื่อสารผ่านไปหลายทอด ซึ่งแน่นอนว่า มันไม่มีทางที่จะได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน มันไม่มีทางที่จะเหมือนคำพูดของผมที่ถ่ายทอดเองโดยตรงออกมาจากใจแน่ๆ
ผมกังวลในทุกๆ ครั้งที่ต้องสื่อสารอะไรก็ตามผ่านการใช้ปากของคนอื่น แต่ผมจะทำได้อย่างไรในเมื่อผมไม่มีทางเลือกอื่น ยังไงผมก็ต้องสู้ทั้งๆ ที่ความจริงมันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก ปากกาซักด้าม กระดาษซักแผ่น มันคือของที่หาได้ยาก เพื่อให้เขียนลำดับเหตุการณ์ แล้วนำไปบอกเล่าให้ทนายความได้เข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น คนที่ถูกจำกัดอิสรภาพแล้วต้องลุกขึ้นมาสู้ เพื่อทวงความยุติธรรรมให้ตัวเอง มันคือการถูกบีบบังคับ ให้สู้ในขณะที่เสมือนถูกมัดมือ มัดเท้าและปิดหู ปิดตา แล้วบอกว่า “สู้สิ” นี่แหละ ความยุติธรรรมที่ผมกำลังเผชิญ

เปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียวเปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว

การสู้อยู่ในคุกมันยากเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการออกได้ แค่การหาพื้นที่ว่าง สำหรับการหย่อนก้นเพื่อนั่งลงให้พ้นจากผู้คน ผู้ต้องขังหรือนักโทษจำนวนมาก ที่แออัดกันอยู่ในนี้ก็ไม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว การจะหาที่เงียบๆ เพื่อเขียนอธิบายสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร คุณก็จะได้เห็นข้อความนี้ปรากฏอยู่ย่บน Facebook ของผมแล้ว

ผมได้พยายามอย่างที่สุดแล้วจริงๆ ในการกลั่นข้อความบอกผ่านทนายทีละตัวอักษรเพื่อสื่อสารออกมาหาทุกๆคน ขอให้ทุกๆคน ตั้งใจอ่านสิ่งที่ผมจะบอกต่อจากนี้ให้ดีๆ นะครับ

ความจริงคือ “คดีนี้ไม่มีผู้เสียหายเลยแม้แต่คนเดียว” คำถามที่คุณต้องถามเพื่อค้นหาความจริงด้วยตัวคุณเอง มีใครสักคนไหมที่ซื้อสินค้าจากบริษัทแล้วไม่ได้สินค้า มีใครสักคนไหมที่ขายของมีกำไรในระบบแล้วบริษัทไม่จ่ายเงินให้ มีใครสักคนได้โปรโมชั่นทริปท่องเที่ยวแล้วบริษัทไม่พาไปเที่ยว แล้วคุณจะพบความจริงที่ว่า “ไม่มีเลยสักคน” ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่บริษัท ดำเนินธุรกิจมา และไม่มีปรากฏในคำกล่าวหาของตำรวจในคดีนี้ด้วยครับ นั่นคือความจริงที่สรุปได้ว่า ซื้อสินค้าก็ได้สินค้าทำงานก็ได้เงินและได้ผลตอบแทนอื่นๆ ตามที่บริษัทสัญญาไว้ แต่ก็ยังถูกกล่าวหาว่า “ผมฉ้อโกงประชาชน”

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณสงสัยมั้ยครับว่าแล้วทำไมถึงมีคนออกมาแจ้งความเป็น 10,000 คน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในจดหมายฉบับต่อไป”

เปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียวเปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว

เปิดจดหมาย บอสพอล ถามผมทำผิดอะไร ลั่นคดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว