การเช่าอพาร์ทเมนต์ถือเป็นรายจ่ายก้อนใหญ่ต่อเดือน ดังนั้น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จึงต้องคำนวณอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นเงินในแต่ละเดือนอาจติดขัด หรือชักหน้าไม่ถึงหลัง ดังเช่นกรณีของหญิงสาวชาวไต้หวันคนหนึ่ง ที่โพสต์เล่าว่าอยู่ห้องเช่าเพียง 20 วัน แต่บิลค่าไฟเกือบ 4,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ทำเอาตะลึงว่าทำไมแพงขนาดนี้
หญิงสาวโพสต์เล่าผ่านฟอรัม Dcard โดยบอกว่าเริ่มเช่าห้องในเดือนมีนาคมปีนี้ แต่เพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่จริงๆ เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม กระทั่งจนถึงเดือนมิถุนายน นับรวมเวลาอยู่บ้านเช่าหลังนี้เพียงประมาณ 20 วันเท่านั้น อีกทั้งยังกลับบ้านในช่วงวันหยุดฤดูร้อน และไม่ได้กลับไปที่บ้านเช่าจนกว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดเทอม
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คาดคิดว่า จะได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าของห้องเช่าเมื่อไม่กี่วันก่อน ว่าต้องชำระค่าไฟมากกว่า 3,600 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ประมาณ 3,700 บาท) จำนวนเงินนี้ทำให้ถึงกับตะลึง และยอมรับไม่ได้จริงๆ
ทั้งนี้ ผู้โพสต์ยังยืนยันด้วยว่า ก่อนจะย้ายเข้าก็แทบไม่ได้ใช้ไฟฟ้า และจะถอดปลั๊กทั้งหมดเมื่อไม่อยู่บ้านเสมอ เมื่อลองถามแม่ถึงค่าไฟที่บ้านของครอบครัว ก็ได้รู้ว่าประมาณ 2,000 หยวนเท่านั้น (ประมาณ 2,050 บาท) แม้จะใช้กันหลายคนก็ตาม ดังนั้นค่าไฟที่ห้องเช่าจึงทำให้เธอตั้งคำถามว่า “เป็นไปได้ยังไงที่เราอาศัยอยู่ที่นี่ได้ไม่ถึงเดือน และค่าไฟก็เกิน 3,600 มีปัญหาอะไรกันแน่”
หลังจากที่บทความนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในหมู่ชาวเน็ต ซึ่งจะเห็นว่าหลายคนเตือนเจ้าของโพสต์ตรงกัน ว่าอาจจะเป็นเพราะลืมปิดเครื่องทำน้ำอุ่นก่อนออกจากบ้าน “ควรปิดเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยหรือเปล่า” , “หากไม่ปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไฟฟ้าก็ทำให้ค่าไฟที่บ้านพุ่งได้นะ” , “ก่อนออกจากห้องไม่ได้ปิดเครื่องทำน้ำอุ่นเหรอ?”
อย่างไรก็ตาม บางคนมองว่าแม้จะไม่ได้ปิดเครื่องทำน้ำอุ่นจริงๆ ก็ไม่น่าจะกินไฟมากขนาดนี้ แต่สงสัยว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของห้องเธอ อาจจะถูกเชื่อมต่อกับ “ไฟฟ้าส่วนกลาง” หรือมีใครแอบขโมยไฟฟ้าใช้ จึงแนะนำให้ติดต่อเจ้าของห้องเช่าเเพื่อตรวจสอ