“ทนายตุ๋ย” ทนายความของ “หนุ่ม กรรชัย” มอบหลักฐานคลิปเสียงให้ตำรวจ เพื่อไปสอบ “บอสปัน” เพิ่ม กรณีถูกศิลปินชาย-นักร้องเรียนหญิง รีดเงิน 20 ล้าน

จากกรณี หนุ่ม กรรชัย โพสต์ข้อความแฉ ศิลปินชื่อดัง ร่วมมือกับ นักร้องเรียนหญิง ไปตบทรัพย์บรรดาบอส “ดิ ไอคอน” แลกกับการมาออกโหนกระแส โดยเรียกเงินสูงถึง 20 ล้าบนบาท

โดยข้อความที่โพสต์ ระบุว่า “ตบทรัพย์กันเก่งเนอะ ล่าสุด มีคลิปเสียง ศิลปิน นักแสดงชื่อดัง ร่วมกับ นักร้องสาวนักตบ อ้าง ‘กรรชัย’ ไฟเขียว ออก โหนกระแส เรียก 20 ล้าน รอฟังข่าวเที่ยงวัน”

ต่อมาในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ หนุ่ม กรรชัย เผยว่า คลิปทั้งหมดยาว 29 นาที เป็นบทสนทนาระหว่าง บอสพอล และ บอสปัน คุยกับหญิงคนหนึ่งซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นนักร้องเรียนหญิงคนหนึ่ง อ้างว่า ได้ตกลงกับหนุ่ม กรรชัยแล้ว ว่าจะให้มาออกโหนกระแส แต่ต้องจ่ายเงิน 20 ล้าน โดยทางรายการจะเอาสปอนเซอร์ออกไปทั้งหมด เพื่อให้เวลากับ บอสพอล อย่างเต็มๆ ซึ่งทางบอสปันก็พยายามจะขอหลักฐานว่า พี่หนุ่มพูดแบบนั้นจริงๆ มีเสียงพี่หนุ่มมายืนยันไหม

หนุ่ม กรรชัย ยังบอกในรายการเที่ยงวันฯ อีกว่า ได้รับการติดต่อจากศิลปินคนนี้จริง ว่าจะขอให้บอสพอลมาออกรายการ ซึ่งตอนนั้น บอสพอลยังไม่ได้ไปออกรายการไหนเลย โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องให้ “พี่สาว” ของศิลปินท่านนี้ขึ้นไปนั่งในรายการด้วย ซึ่งตนก็ยินดี เพราะบอสพอลจะได้มาพูดข้อเท็จจริง โดยไม่ได้มีการเรียกรับเงินใดๆ ทั้งสิ้น ขอยืนยันว่า รายการโหนกระแส ไม่เคยเรียกเงินจากเคสไหนทั้งสิ้น มีแต่รับเงินจากสปอนเซอร์ แล้วที่บอสพอลมาออกรายการในวันนั้น เขาก็มาออกฟรีๆ ไม่ได้เงินแน่นอน ส่วนเรื่องสปอนเซอร์ ก็เป็นสปอนเซอร์ของช่อง 3 ตนจะไปถอดของเขาออกได้ยังไง

โดยล่าสุด ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัวของหนุ่ม กรรชัย ได้เดินทางไปมอบหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหลักฐานคือคลิปเสียงของนักรีดทรัพย์ที่ไปรีดเอาเงินจากบอส ดิ ไอคอน เรียกเป็นเงินสด 20 ล้านบาท โดยแอบอ้างชื่อ หนุ่ม กรรชัย

ซึ่งเรื่องนี้ ทางทนายตุ๋ย และ หนุ่ม กรรชัย รู้ตัวแล้วด้วยว่าเป็นเสียงของใคร แต่ก็ได้นำมามอบให้ตำรวจ เพื่อจะได้เข้าไปสอบปากคำ “บอสปัน”  ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่สนทนาในคลิปเสียง เพื่อเตรียมดำเนินการเอาผิด กับนักรีดทรัพย์ 2 รายนี้ต่อไป

ซึ่งพฤติการณ์แบบนี้ มันมีความชัดเจนว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ มีการรับส่งกันในการหลอกเอาเงินจากบอส ดิ ไอคอน ซึ่งตนต้องขอเรียกว่าเป็นเหยื่อ ซึ่งถ้าหลักฐานมันแน่นหลังจากนี้ ก็จะดำเนินคดีกับเขาได้เลยโดยไม่ต้องมีข้อโต้แย้ง