จับตา! เปิดระบบ “หลังบ้านดิไอคอน” ตอบโต้ DSI เพิ่มข้อหาแชร์ลูกโซ่ 18 บอสถึงในคุก

ทนายวิฑูรย์ เผย บอสพอล พร้อมให้ข้อมูล “ดีเอสไอ” อย่างละเอียด เตรียมเปิดระบบหลังบ้านชี้แจง โต้ ”ดิไอคอน“ ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เพราะมีสินค้าอยู่จริง วอนเจ้าหน้าที่อย่าเลือกฝ่ายขอให้ทำตัวเป็นกลาง

วันนี้ (11 พ.ย. 67)นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความคดีดิไอคอน กล่าวถึงกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหา 18 บอสเพิ่มเติมในเรือนจำ ว่า ดีเอสไอประสานตนมาตั้งแต่วันศุกร์ โดยโทรมาหาตนว่าจะมีเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาวันจันทร์กับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนพร้อมกัน ตนก็ตอบรับไปอย่างงงๆ หลังจากรู้ว่าดีเอสไอจีเข้ามาตนจึงโทรสั่งให้ทีมงานเตรียมเอกสารไว้จำนวนเยอะพอสมควรและจะนำมาในเช้าวันนี้ด้วย ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด ทั้งรายการการทำธุรกรรมการเงิน

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ทางดีเอสไอประสานมาว่าจะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 18 คน ตนถามทางผอ.ว่าจะสอบคำให้การเลยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าจะสอบคำให้การในเบื้องต้น ตนเลยเตรียมข้อมูลมาแน่นหนาเพราะคำว่าเบื้องต้นของบอสพอลไม่มีอยู่จริงเนื่องจากต้องการให้รายละเอียดทั้งหมดเพราะเกรงว่าดีเอสไอรับคำให้การเบื้องต้นไปแล้วจะตัดจบคดี เพราะว่าการเข้ามาสอบในเรือนจำไม่ได้เข้ามาง่ายจึงเกรงว่าจะไม่ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ จึงต้องการให้การอย่างละเอียดครบถ้วน โดยปกติแล้วขั้นตอนจะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจึงให้ปากคำ

เมื่อถามว่าลักษณะคำให้การจะชี้แจงอย่างไรเพื่อไม่ให้ตรงตามที่ถูกกล่าวหา ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า วันนี้ดีเอสไอจะเข้ามาแจ้งข้อหา พ.ร.บ.กู้ยืมเงินและข้อหาแชร์ลูกโซ่ ซึ่งองค์ประกอบต้องไม่มีธุรกิจอยู่จริง ต้องเอาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่าหมุนเวียนไปเรื่อยๆและต้องไม่มีสินค้า แต่ปรากฎว่าดิไอคอนไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดดังกล่าวนี้ จึงต้องการให้ปากคำโดยละเอียด คงต้องนั่งให้ปากคำกันยาวๆ และพวกตนยินดีที่จะเปิดแผนหลังบ้านให้ดูเพื่อจะได้ชี้แจงให้เห็นว่าระบบหลังบ้านดิไอคอนเป็นอย่างไร

เมื่อถามถึงความคืบหน้าพยานที่จะนำมาให้การกับดีเอสไอ ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตอนแรกตนส่งรายชื่อยืนยันตัวตนให้ดีเอสไอแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ตนได้กลับมาทำบัญชีรายชื่อพยานใหม่ โดยได้เก็บสำเนาบัตรประชาชนของพยานแต่ละคน เบื้องต้นรวบรวมได้แล้ว 700 คน ซึ่งก็จะมีการทยอยนัดเก็บหลักฐาน พยานไปเรื่อยๆ โดยจะรวบรวมทั้งหมดประมาณ 3000 คน หลังจากนั้นจะปิดท้ายด้วยพยานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่

ทนายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ของพยานแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ในขณะที่ตนได้รับทราบจากดีเอสไอว่าจะสอบพยานเพียงบางส่วนแล้วตัด ไม่ได้สอบทั้ง 3,000 คนที่ตนนำมา แต่ตนจะไม่มีการแจ้งข้อหา ม.157 กับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ส่วนตัวแทนจะแจ้งหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ตนอย่างบอกว่าผู้พิพากษาเมื่อมีการพิจารณาคดีในศาลยังไม่มีการตัดพยานที่นำมาให้ถ้อยคำสู้ในศาล ซึ่งก็ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะจะเป็นการปิดกั้นการต่อสู้คดีของผู้ต้องหา

ดีเอสไอต้องกลับไปพิจารณาให้ดี ไม่ใช่เอาง่ายเข้าว่า ชีวิตคนทั้งชีวิต เพราะคดีใหญ่ขนาดนี้ฝั่งผู้เสียหายที่อยู่ตรงข้ามเป็นหมื่นคนยังสอบกันได้ ฝั่งดิไอคอนพันกว่าคนจะเป็นจะตาย ตนมองว่าไม่ถูกต้อง เพราะดีเอสไอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องทำตัวอยู่ตรงกลางไม่ใช่เลือกข้างฝั่งใดฝั่งนึง ถ้าเลือกข้างก็ไม่ต่างอะไรกับพยานอยู่เสียหาย