ผกก.บางซื่อ ยอมรับเครียดหนัก กรณีถูกโยงปมเงินทนายตั้ม 39 ล้าน ยอมรับมองคนผิดมาตลอด ท้าตรวจสอบเส้นทางการเงินตัวเองได้เลย
วันที่ 10 พ.ย. 2567 จากกรณี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ถูกเพจ บิ๊กเกรียน พาดพิงปม น.ส.สารินี ภรรยาของ นายนุ คนสนิท นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ผู้ต้องหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ ว่า ถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ จำนวน 2,276,400 บาท ซึ่งเป็น มูลค่าทรัพย์ที่สูง แต่กลับลงแค่บันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ตั้งแต่ 23 พ.ค. 2566 ผกก.สน.บางซื่อ ได้ทำการสืบสวนไปถึงไหนแล้ว
ทั้งนี้พบว่าปมเงินดังกล่าว เชื่อมโยงกับ เงิน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้ม ขอให้ เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ จ่ายแคชเชียร์เช็คคืนให้กับ น.ส.สาวิตรี ที่นำไปจ้างเฉินคุน ดาราจีน แต่ต่อมาอ้างว่าถูกสแกมเมอร์ แฮกเอาไปจากกระเป๋าเงินบิทคอยน์
ล่าสุด พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ยืนยันว่า รู้จักกับทนายตั้มมา 5 ปีแล้ว ตอนนั้นภาพพจน์ของ ทนายตั้ม เป็นคนดี เพราะบอกว่าเป็นมูลนิธิทนายประชาชน โดยทนายตั้ม มักจะไหว้วานให้ตัวเอง ลงบันทึกประจำวันมาแล้วหลายเรื่อง ส่วนกรณีเรื่องที่เกิดขึ้น ทนายตั้มโทรมาบอกว่า จะมีคนเข้ามาลงบันทึกประจำวัน ยืนยันว่าตนเองก็ไม่รู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของคดี จนกระทั่งมาตกเป็นข่าวถึงมารู้ว่าใบบันทึกประจำวัน ที่ทนายตั้มให้พรรคพวกมาลงไว้ถูกนำไปหลอกเจ๊อ้อย
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดและกังวล หลังถูกสังคมโจมตี ว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ทนายตั้ม ยืนยันว่าเรื่องนี้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองได้เลย ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง
ที่ผ่านมาตัวเองทำมาหากินสุจริต รับราชการเป็นตำรวจ และเปิดร้านขายราดหน้ามานานกว่า 10 ปีแล้ว และที่ผ่านมาก็เคยนำราดหน้าจากร้านตัวเองไปเลี้ยงลูกน้องในที่ทำงาน ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ.
