ฆ่าโหดปลัดหญิง อบต.คลองสาม แทงคอ-มือ11แผล ลูกเผยเศร้าเพิ่งได้คุยกับแม่.

สยอง คนร้ายโหด บุกแทง ปลัดหญิง อบต.คลองสาม 11 แผล นอนเสียชีวิตสลดในบ้าน เผยนาทีเกิดเหตุ ได้ยินเสียงร้องกรี๊ด 2 ครั้ง ลูกเล่าสุดเศร้า เพิ่งได้นั่งคุยกับแม่

วันที่ 9 พ.ย.2567 ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.50 น.ของวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ม.8 ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง, พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.ฯ, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง

สยอง คนร้ายโหด บุกแทง ปลัดหญิง อบต.คลองสาม 11 แผล นอนเสียชีวิตสลดในบ้าน เผยนาทีเกิดเหตุ ได้ยินเสียงร้องกรี๊ด 2 ครั้ง ลูกเล่าสุดเศร้า เพิ่งได้นั่งคุยกับแม่

สยอง คนร้ายโหด บุกแทง ปลัดหญิง อบต.คลองสาม 11 แผล นอนเสียชีวิตสลดในบ้าน เผยนาทีเกิดเหตุ ได้ยินเสียงร้องกรี๊ด 2 ครั้ง ลูกเล่าสุดเศร้า เพิ่งได้นั่งคุยกับแม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 แพทย์เวรจากนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.คลองสาม และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นปลูกอยู่ในเนื้อที่กว่า 100 ตารางวา มีรั้วรอบบ้าน ภายในห้องโถงบริเวณหน้าห้องน้ำ พบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ นางวรกนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม

สภาพศพนุ่งผ้าถุงกระโจมอก นอนหงายจมกองเลือดอยู่หน้าตู้เย็น ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่ลำคอและที่มือขวารวม 11 แผล บริเวณโต๊ะกินข้าวพบมีดปอกผลไม้วางอยู่ ส่วนบริเวณอ่างล้างมือพบสร้อยคอทองคำถอดวางไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้และมีทรัพย์สินสูญหาย

จากการสอบสวน นางบงกช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้านอีกหลัง ได้ยินเสียงพี่สาวร้อง กรี๊ด กรี๊ด 2 ครั้ง จึงรีบมาดูก็พบพี่สาวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องโถงเลือดไหลนอง แต่ไม่พบคนร้าย

นางบงกช กล่าวต่อว่า ส่วนทรัพย์สินสร้อยคอทองคำก็พบวางอยู่ที่อ่างล้างมือเป็นสร้อยทองที่พี่สาวใส่อยู่เป็นประจำ พี่สาวไม่เคยมีเรื่องกับใคร และก็เป็นคนดี อยู่ที่นี่มาตลอดเป็นที่รักของคน ไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร เรื่องการทำงานในสายปกครองก็ไม่มีปัญหา

นางบงกช กล่าวอีกว่า ตนเจอกับพี่สาวครั้งสุดท้ายวันนี้ตอนเย็นขณะนั่งทำงานอยู่ก็บอกเขาว่า เดี๋ยวน้องจะไปทำกายภาพที่บึงยี่โถแล้วตอน 17.00 น. ทางลูกชายพี่สาวก็มารับคุณแม่ไปบ้านคลองเจ็ดด้วย โดยที่ลูกชายเขาปิดประตูล็อกไว้ ปกติแล้วแม่ก็จะอยู่ที่บ้านกับพี่สาวสองคน ตนก็ไม่ทราบสาเหตุจะชิงทรัพย์ แต่ทรัพย์สินก็ไม่มีอะไรหาย แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปดูโทรศัพท์อยู่หรือไม่

นานงบงกช กล่าวว่า ตอนเข้าไปประตูด้านหลังเปิดลักษณะแง้มไว้ ด้านหลังบ้านเป็นสวน มีคนงานทำงานอยู่ปกติ สำหรับที่บ้านหลังนี้ แม่อยู่กับพี่สาวสองคน ส่วนตนอยู่บ้านอีกหลังใกล้กันตอนเกิดเหตุที่ตนได้ยินเสียงร้องกรี๊ดติดต่อกัน 2 ครั้งช่วงเวลาประมาณ 21.30 น.

ด้าน นายภูชิต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ลูกชายของผู้ตาย ให้การว่า แม่ก็ปกติดีทุกอย่าง ก่อนที่ตนจะออกไปซื้อข้าวแล้วก็มานั่งคุยกับแม่ถามว่า เป็นไงบาง สบายดีไหม และกลับไปบ้านคลองเจ็ดเวลาประมาณ 19.00 น. แม่ยังเดินมาส่งหน้าบ้าน เพราะตนต้องกลับไปดูน้อง

นายภูชิต กล่าวต่อว่า ปกติแล้วแม่จะอยู่กับยายกับน้องสาวที่อยู่กับแฟนเขา แต่อยู่บ้านคนละหลัง ตนก็จะไป ๆ มา ๆ ช่วงเช้าเย็นทุกวัน แม่ก็ไม่มีเรื่องกังวล ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไม่ได้ตั้งตัว ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตเป็นปลัดอบต. จึงรุดมาที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีคราบเลือดอยู่ แต่ยังไม่ได้เข้าไปชันสูตรพลิกศพต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์ร่วมตรวจสอบอย่างละเอียดจะได้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอะไร

อย่างไรก็ตาม สอบสวนพยานไม่ว่าจะเป็นน้องสาวที่พบศพคนแรก พบมีบาดแผลที่คอ แต่ไม่ยืนยันสาเหตุ ให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ทรัพย์สินอยู่ครบ โทรศัพท์ สร้อยคอ พบวางอยู่ที่อ่างล้างมือ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ถึงประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตผู้เสียชีวิตมีอาการซึมเศร้าและมีอาการหลายอย่างประกอบด้ว

ด้าน ร.ต.ท.เกรียงไกร ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ ทำการชันสูตรพลิกศพและบันทึกที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และเชิญญาติไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ. คลองหลวง

และให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งยังนิติเวชโรงบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อทำการฝ่าชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง