
กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า พื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมือหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 3 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนประเทศไทยตอนบนจะมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้
ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างเริ่มมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและห่างฝั่งทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและห่างฝั่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วงวันที่ 8 – 9 ธ.ค. คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10 – 11 ธ.ค. 68 ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ตอนบน ส่งผลให้พายุนี้จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ
ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ประกอบกับหลายพื้นที่ได้รับประสบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น อาจส่งผลให้ระบบระบายน้ำยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำระบายไม่ทันและน้ำรอระบายตามมา
และขอให้เกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค 3 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 5 – 8 ธ.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค โดยมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 2 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 15 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 4 – 7 ธ.ค. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 9 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. ตอนบนของภาค: อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตอนล่างของภาค: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่าง ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 4 – 6 ธ.ค. มีฝน/ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 7 – 9 ธ.ค. อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
