กรณีจับกุม “นัตตี้ไดอารี่” พร้อม แม่ กลางเมืองที่ประเทศอินโดนีเซีย หลังตุ๋นเหยื่อลงทุนเทรดหุ้นกว่า 6,000 คน เสียหายกว่า 2,000 พันล้านบาท พร้อมหลบหนีหมายจับออกนอกประเทศ โดยวันที่ 25 ต.ค67 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นางสาว สุชาตา หรือ นัตตี้ ลีอาห์ ยูทูปเบอร์ Nutty’s Diary ที่มีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน พร้อมด้วยนางศรัญญา มารดา ซึ่งถูกศาลอาญารัชดาภิเษก เมื่อปี 2565 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก. การกู้ยืมเงิน โดยได้นำตัวผู้ตองหา2 รายไปให้ดีเอสไอดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
สำหรับการจับกุม นัตตี้ไดอารี่ เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางตำรวจอินโดนีเซียสามารถติดตามตัวจับกุมตัวนัตตี้และมารดาได้ในที่พักในเมืองดูไม จังหวัดรีเยา เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งในชั้นจับกุมนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไม่ขัดขืนและยินยอมให้จับกุม ทางตำรวจอินโดนีเซียจึงได้ดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนดำเนินการประสานกับทางตำรวจไทยเพื่อผลักดันส่งตัวกลับประเทศและรับตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทย ทั้งนี้ ตัวเลขาสาวอีก 1 รายที่ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี ทางตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาเบาะแสและจับกุมดำเนินคดี คาดว่ายังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศและขอไม่เปิดเผยว่า ปลายทางของเลขาฯคนนี้ไปอยู่ที่ใด
ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI กล่าวว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษรับกรณีแชร์ลูกโซ่นัตตี้นี้เป็นคดีพิเศษที่ 294/2565 และที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งในส่วนของตำรวจและ DSI ไปแล้ว 16 ล้านบาท ซึ่งได้ส่งมอบให้ทาง ปปง. เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะต้องขยายผลหาเส้นทางการเงินและสืบทรัพย์เพิ่มเติม เพื่อหาว่าทรัพย์สินของผู้ต้องหามีการแยกย้ายถ่ายเทไปที่ใดบ้าง โดยเฉพาะในระหว่างหลบหนีที่ต่างประเทศ
พฤติการณ์แชร์ลูกโซ่นัตตี้
โดยสังเขปคือ นัตตี้ ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่า ให้สมัคร Application เพื่อลงทุนและได้ผลกำไรสูงแบบก้าวกระโดด โดยให้ผู้เสียหายลงทุนขั้นต่ำเป็นจำนวน 5,000 บาทสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อ 1 บิล ผู้เสียหายจะเปิดกี่บิลก็ได้และชวนเชื่อว่า จะได้ผลกำไรทุกเดือน เช่น สัญญา 3 เดือน ได้กำไร 25% หรือสัญญา 12 เดือน ได้กำไร 35% เป็นต้น แต่สุดท้ายผู้เสียหายก็ไม่ได้ผลกำไรตอบแทนจริง ๆ และมีเหยื่อหลงเชื่อทั่วประเทศกว่า 6,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านกว่าบาท เบื้องต้นมีผู้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 445 ราย
โดยหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้วนั้น พบมีผู้กระทำความผิดจำนวน 9 ราย ซึ่ง 6 รายนั้นเป็นระดับลูกข่ายที่สามารถออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนอีก 3 ราย นั่นก็คือตัวนัตตี้ มารดา และเลขาฯ ซึ่งถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่สุด ได้หลบหนีออกนอกประเทศไป จึงนำมาสู่การออกหมายจับติดตามตัว ณ ขณะนี้ก็จับกุมได้แล้ว 2 ราย คือนัตตี้และมารดา คงเหลือแต่เลขาอีก 1 รายที่ต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างคุมตัวออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง สื่อมวลชนได้พยายามพูดคุยสอบถาม ข้อเท็จจริงจากตัวนัทตี้ ปรากฏว่า นัตตี้ เปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้น ๆ เพียงแค่ว่า
วันนี้ตนมามอบตัวแล้วและขอโทษผู้เสียหายทุกคน ไม่เคยคิดที่จะหลบหนี ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ทางคดีนั้น ปรากฏว่าตัวนัตตี้และมารดาไม่ตอบคำถามในส่วนนี้