ดีเอสไอ รับคดีฟอกเงิน ดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ เหตุความผิดมีมูลค่าเกิน 300 ล้าน เป็นอำนาจของอธิบดีดีเอสไอสามารถดำเนินการได้ทันที
จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินการสืบสวนคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เลขสืบสวนคดีพิเศษที่ 178/2567 ต่อมา พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่กองคดีการฟอกเงินทางอาญา และศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว นำหมายค้นเข้าตรวจค้นอาคารซุกซ่อนทรัพย์สินของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ภายในห้องเช่าเแห่งหนึ่ง กทม.
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอแจ้งหมายผ่านกลุ่มไลน์ เชิญสื่อมวลชนระบุว่า “วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2567) เวลา 14.00 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวการรับคดีฟอกเงิน กรณีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ ณ ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ถนนแจ้งวัฒนะ”
รายงานข่าวแจ้งว่า ดีเอสไอจะรับคดีฟอกเงิน กรณีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ ตามประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2564 เรื่องกำหนดรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ซึ่งคดีดังกล่าวนั้น เป็นไปตามบัญชีท้ายประกาศ กคพ. ในข้อที่ 7 คือ คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คดีความผิดที่มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 60 และมาตรา61 แห่งพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่มีความผิดมูลฐานเป็นคดีพิเศษซึ่งอยู่ในอำนาจ ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรือคดีความผิดมูลฐานที่เป็นคดีอาญาอื่นที่มีมูลน่าเชื่อว่ามีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับ การกระทำความผิดที่มีมูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาทขึ้นไป เป็นอำนาจของอธิบดีดีเอสไอสามารถดำเนินการได้ทันที