เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 เกิดกระแสร้องเรียนถึงหน่วยงานการศึกษาของกรุงเทพมหานคร หลังครูจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัด กทม. ออกมาเปิดเผยว่า ถูกเรียกเก็บเงินจากบุคลากรภายในโรงเรียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสัมมนานอกสถานที่ จังหวัดเพชรบุรี เป็นจำนวนเงินคนละ 1,500 บาท โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดหรือหลักฐานค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน

คณะครูและเจ้าหน้าที่หลายรายแสดงความไม่สบายใจ เนื่องจากมองว่า การเรียกเก็บเงินลักษณะดังกล่าวอาจไม่เหมาะสม หรืออาจขัดต่อระเบียบทางราชการ โดยต่างตั้งข้อสังเกตว่าการสัมมนาครั้งนี้อาจไม่มีความโปร่งใสเท่าที่ควร

นอกจากประเด็นเรื่องเงินแล้ว ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า บุคลากรภายในโรงเรียนสังเกตเห็นพฤติกรรมของ ผู้อำนวยการโรงเรียน (ผอ.) และ รองผู้อำนวยการฝ่ายหญิง (รอง ผอ.) ที่มีท่าทีสนิทสนมและแสดงออกเกินขอบเขตความเหมาะสมระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้แก่ครูและเจ้าหน้าที่หลายคน โดยมองว่าอาจเข้าข่ายพฤติกรรมเชิงชู้สาว อันไม่สมควรต่อสถานภาพของผู้บริหารสถานศึกษา

จากเหตุการณ์ดังกล่าว บุคลากรในโรงเรียนจึงเรียกร้องให้ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และ คณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการครู เร่งเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งในประเด็นการเรียกเก็บเงินและพฤติกรรมส่วนตัวของผู้บริหาร เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของสถานศึกษา และสร้างความเป็นธรรมให้แก่ครูและเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบ

ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยคาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าดำเนินการในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทีมข่าวสยามนิวส์รายงานให้ทราบต่อไป