เปิดกลุ่มมีข่าวดี!! ได้รับเงินเพิ่ม สูงสุดถึง 8,050 บ.ต่อเดือน เงินสมทบใหม่ รับบำนาญสูงขึ้น

เปิดกลุ่มมีข่าวดี!! ได้รับเงินเพิ่ม สูงสุดถึง 8,050 บ.ต่อเดือน เงินสมทบใหม่ รับบำนาญสูงขึ้น

เปิดกลุ่มมีข่าวดี!! ได้รับเงินเพิ่ม สูงสุดถึง 8,050 บ.ต่อเดือน เงินสมทบใหม่ รับบำนาญสูงขึ้น

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ประกาศปรับโครงสร้างเงินสมทบและเพดานค่าจ้างใหม่ เริ่มปี 2569 เพื่อยกระดับ สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน และเพิ่ม เงินบำนาญหลังเกษียณ ให้สอดคล้องกับค่าครองชีพและเศรษฐกิจ โดยผู้ที่ส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่องอาจได้รับบำนาญสูงสุดถึง 8,050 บาทต่อเดือน

โครงสร้างใหม่ จ่ายตามจริง ได้ประโยชน์ตามจริง

การปรับครั้งนี้ยึดหลัก “ผู้มีรายได้สูง จ่ายสมทบเพิ่ม ได้รับสิทธิประโยชน์สูงขึ้น” เพื่อสร้างความเป็นธรรมต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ปัจจุบัน (ปี 2568) เพดานค่าจ้างยังอยู่ที่ 15,000 บาท ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสูงสุด 750 บาท/เดือน แต่จากปี 2569 เป็นต้นไปจะมีการปรับเพิ่มเป็นลำดับขั้น ดังนี้

ปี 2569 – 2571

เพดานค่าจ้าง: 17,500 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 875 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 15 ปี: 3,500 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 25 ปี: 6,125 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์อื่น เช่น เงินทดแทนเจ็บป่วย 8,750 บาท/เดือน, ค่าคลอดบุตร 26,250 บาท/ครั้ง, เงินว่างงาน 8,750 บาท/เดือน

ปี 2572 – 2574

เพดานค่าจ้าง: 20,000 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 1,000 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 15 ปี: 4,000 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 25 ปี: 7,000 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์อื่น เช่น เงินเจ็บป่วย 10,000 บาท/เดือน, ค่าคลอดบุตร 30,000 บาท/ครั้ง, เงินทุพพลภาพ 10,000 บาท/เดือน

ปี 2575 เป็นต้นไป

เพดานค่าจ้าง: 23,000 บาท

เงินสมทบสูงสุด: 1,150 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 15 ปี: 4,600 บาท/เดือน

บำนาญผู้ส่งสมทบ 25 ปี: 8,050 บาท/เดือน

สิทธิประโยชน์อื่น เช่น เงินเจ็บป่วย 11,500 บาท/เดือน, ค่าคลอดบุตร 34,500 บาท/ครั้ง, เงินทดแทนว่างงาน 11,500 บาท/เดือน

ความเห็นประชาชนและขั้นตอนบังคับใช้

แผนการปรับเพดานค่าจ้างและเงินสมทบดังกล่าวยังต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการพิจารณาทางกฎหมาย แต่สำนักงานประกันสังคมตั้งเป้าเริ่มใช้จริงในปี 2569 ควบคู่กับการปรับสูตรบำนาญแบบใหม่ (สูตร CARE) เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมต่อผู้ประกันตน มาตรา 33 และ 39

จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนกว่า 200,000 คน พบว่ามากกว่า 95% เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้ เนื่องจากช่วยเพิ่มความมั่นคงชีวิตหลังเกษียณ และทำให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นธรรมมากขึ้น การปรับโครงสร้างเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ประกันสังคมปี 2569 ถือเป็นก้าวสำคัญของระบบ เงินบำนาญผู้ประกันตน ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตหลังเกษียณ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความมั่นคงทางสังคมในระยะยาว