ดูตัวเองด่วน ใครบ้างมีสิทธิ์ถูกเรียกตัวไปปกป้องประเทศ เมื่อเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ

ดูตัวเองด่วน ใครบ้างมีสิทธิ์ถูกเรียกตัวไปปกป้องประเทศ เมื่อเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ

ดูตัวเองด่วน ใครบ้างมีสิทธิ์ถูกเรียกตัวไปปกป้องประเทศ เมื่อเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ

 

เรียกได้ว่า คงมีหลายคนที่สงสัยว่า หากวันหนึ่งเกิดสงครามขึ้นจริง จะมีการเรียกเหล่ากำลังพลเพิ่มไหม หรือเป็นบุคคลหรือชาวบ้านไหม วันนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัยนั้นกัน

กำลังพลสำรองคืออะไร?

กำลังพลสำรอง หรือที่เรียกกันว่า ทหารกองหนุน หมายถึง ผู้ที่เคยผ่านการเป็นทหารแล้ว แต่ปลดประจำการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

– ผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (ร.ด.) ตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป และขึ้นทะเบียนกองประจำการจนปลดเป็นทหารกองหนุน

– ผู้ที่ปลดจากกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

เมื่อสงครามเกิดขึ้น เรียกกำลังพลสำรองอย่างไร?

เมื่อมีเหตุการณ์สงครามหรือความไม่สงบเกิดขึ้น กระทรวงกลาโหม มีอำนาจในการออกคำสั่ง ระดมพล เพื่อเสริม กำลังพลประจำการ โดยจะดำเนินการ เรียกพลกำลังพลสำรอง ตามขั้นตอน ดังนี้

1. ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก แจ้งไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด ของพื้นที่ที่กำลังพลสำรองมีภูมิลำเนาอยู่

2. ออก หมายเรียกพล (ตพ.15) ส่งถึงผู้ถูกเรียก เพื่อปฏิบัติตามหมาย

3. ผู้ถูกเรียกต้องไปรายงานตัวตามสถานที่และเวลาที่กำหนด

ลำดับการเรียกทหารกองหนุนจากทหารเกณฑ์

สำหรับ ทหารกองหนุน ที่ปลดจาก ทหารเกณฑ์ (หรือเรียกว่า ทหารกองหนุนประเภทที่ 1) จะมีการจัดลำดับตามอายุ ดังนี้

ชั้นที่ 1: อายุต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์

ชั้นที่ 2: อายุ 30 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 40 ปี

ชั้นที่ 3: อายุ 40 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 46 ปี

พ้นกำหนดการรับราชการทหาร: อายุเกิน 46 ปีบริบูรณ์ โดยปกติ กำลังพลสำรอง ที่อายุน้อยกว่ามักถูกเรียกตัวก่อน เนื่องจากมีความพร้อมและทักษะทางทหารยังคงสดใหม่

เกณฑ์การเรียกพลระดมในกรณีสงคราม

เมื่อต้อง ระดมพล เต็มรูปแบบ กองทัพจะพิจารณาจาก

– ความต้องการกำลังพลเฉพาะทาง เช่น แพทย์สนาม, ช่างซ่อมบำรุง, หน่วยรบพิเศษ

– ความพร้อมด้านสุขภาพ

– ภูมิลำเนาของทหาร

– สถานะครอบครัวและสังคม (บางกรณีอาจขอผ่อนผันได้)

กำลังพลสำรอง ไม่ว่าจะเป็น ทหารเกณฑ์ปลดประจำการ หรือ นักศึกษาวิชาทหาร (ร.ด.) ต่างถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริม กองทัพไทย และมีโอกาสถูกเรียกตัวหากประเทศต้องเผชิญ ภัยคุกคามทางความมั่นคง หรือสงคราม ดังนั้นผู้ที่อยู่ในสถานะนี้ควรรู้สิทธิ หน้าที่ และเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ หากวันหนึ่งต้องกลับไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติอีกครั้ง