ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย “น้องเน” จนเสียชีวิต

ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย “น้องเน” จนเสียชีวิต

ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย "น้องเน" จนเสียชีวิต

“ทนายเกิดผล แก้วเกิด” เผยว่า ศาลพิพากษาสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย พลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล หรือ น้องเน จนเสียชีวิต

วันที่ 27 พ.ค. 68 ทางด้าน “ทนายเกิดผล แก้วเกิด” ทนายความชื่อดัง ระบุว่า จากกรณีที่ พลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล หรือ น้องเน อายุ 18 ปี สมัครใจเข้ารับการเป็นทหารเกณฑ์ ถูกครูฝึก “ซ่อมวินัย” เสียชีวิต หลังเกณฑ์ทหารไม่ถึง 3 เดือน แพทย์ระบุสมองบวม ซี่โครงหัก 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก

ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย น้องเน จนเสียชีวิต

 

 

ต่อมาพนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้องครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึกรวมทั้งหมด 13 คน เป็นจำเลยในความผิดฐาน ร่วมทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและป้องกันการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 มาตรา 5

 

 

ซึ่งในวันนี้ (27 พ.ค. 68) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้อ่านคำพิพากษา โดยสรุป เนื้อความ ว่า

จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นครูฝึกทหารใหม่ ของค่ายนวมินทร์ โดยมีจำเลยที่ 3 ถึง 13 เป็นทหารเกณฑ์และได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นผู้ช่วยครูฝึกทหารเกณฑ์ ร่วมกันทำร้าย ผู้ตาย หลายครั้ง หลายเวลา ต่างกรรมต่างวาระ อย่างทารุณโหดร้าย จน ผู้ตายได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อ เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นทหารใหม่และเป็นทหารเกณฑ์ในค่ายนวมินทร์ที่จำเลยทั้ง 13 สังกัดอยู่ และเห็นเหตุการณ์ซึ่งถือว่าเป็นประจักษ์พยานโดยตลอด หากไม่เป็นความจริง พยานซึ่งเป็นทหารเกณฑ์และเป็นทหารใหม่ก็คงไม่กล้าใส่ความหรือใส่ร้ายป้ายสีทั้งไม่มีสาเหตุโกรธเครื่องกับจำเลยทั้ง 13 แต่อย่างใด

 

 

นอกจากนั้น คำให้การ ของจำเลย ทั้ง 13 ก็ยังมีพิรุธสงสัย และมีการต่อสู้โดยปฏิเสธลอยๆ ทั้งๆ ที่ในชั้นพัฒนาสอบสวนเมื่อ พระนเรศวรแจ้งข้อหาว่า จำเลยทั้ง 13 เรื่องการทำร้ายร่างกาย พลทหาร ให้ได้รับอันตรายแก่กาย จำเลยทั้ง 13 ให้การรับสารภาพ โดยไม่ให้รายละเอียดใดๆ

แต่ต่อมาภายหลังจากที่พลทหารเสียชีวิต เมื่อพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มเติม เป็นข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จำเลยทั้ง 13 ก็ให้การปฏิเสธลอยๆ โดยไม่ให้รายละเอียด

ซึ่งในทางพิจารณาคดี พยานหลักฐานทของโจทก์และของจำเลยก็รับฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 13 ได้มีส่วนร่วมกันกระทำความผิดจริงตามฟ้อง เพียงแต่ต่างคนต่างทำ แต่ระยะเวลาและสถานที่ชัดเจนที่สุดว่าพลทหารเสียชีวิตในเวลาต่อมาเกิดจากการกระทำรุนแรงของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นครูฝึกได้ใช้ไม้ ทำร้ายโดยการทุบตี พลทหารจนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

 

 

ศาลจึงมีคำพิพากษา ว่าการกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 13 มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 มาตรา 5 และมาตรา 35 วรรค 3

พิพากษา

จำคุก จำเลยที่ 1 20 ปี

จำคุกจำเลยที่ 2 15 ปี

จำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 13 คนละ 10 ปี

ในส่วนของพ่อแม่พลทหารที่เสียชีวิตยังติดใจคำพิพากษาเห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโทษน้อยเกินกว่าที่กระทำ ควรได้รับโทษมากกว่านี้ และจะได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป

ในส่วนคดีแพ่ง หลังคัดคำพิพากษาได้แล้วผมจะยื่นฟ้องกองทัพบกเป็นจำเลยเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนให้กับพ่อแม่ของน้อง ตามกฎหมายต่อไป

ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย น้องเน จนเสียชีวิต

ศาลสั่งจำคุก ครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี ซ่อมวินัย น้องเน จนเสียชีวิต