เก๋งแดงขับชนศาลเจ้าที่พัง คนขับรอด!!

เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งลงข้างทาง บริเวณหน้าสำนักงานสรรพสามิตระยอง 2 ถนนบายพาสสาย 36 ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จึงประสานกู้ภัยสยามระยองเข้าตรวจสอบทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบรถยนต์เก๋งสีแดงในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน เกือบตกลงในคูน้ำ มีต้นสะเดาและต้นมะรุมหักเสียหาย 2 ต้น นอกจากนี้ยังพบศาลพระภูมิสีเหลืองที่ถูกชนจนแตกกระจาย และรถกระบะสีดำที่จอดอยู่ใกล้เคียงได้รับความเสียหาย คนขับรถเก๋งซึ่งเป็นชายอายุ 28 ปี บาดเจ็บเล็กน้อยและยังอยู่ในอาการตกใจ จึงไม่สะดวกให้ข้อมูลและไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าช่วงเวลาประมาณ 15.10 น. รถเก๋งสีแดงขับมาจากแยกมาบข่า มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองระยองด้วยความเร็วสูง ก่อนจะเสียหลักพุ่งลงคูน้ำข้างทาง กระแทกต้นไม้และศาลพระภูมิ จนกระเด็นกลับขึ้นมาบนถนน

นายธงชัย อายุ 56 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองบริเวณใกล้เคียง กล่าวว่า เขาได้ยินเสียงดังและรีบออกมาดู พบว่ารถเก๋งสีแดงพุ่งชนต้นสะเดาและศาลพระภูมิแตกกระจาย รูปปั้นเจ้าที่กระเด็นออกมานอกศาล ซึ่งศาลนี้ชาวบ้านในพื้นที่นับถือกันมาก

นางหมุ่ย อายุ 57 ปี เล่าว่า ศาลนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก รถคันนั้นที่เกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ขาด เหลือเชื่อมากว่าคนขับไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 10 ปี รถกระบะ 4 ประตูขับมากันพ่อกับลูกเสียหลักข้ามเลนมาหงายท้องบริเวณศาลก็ปลอดภัยดี ส่วนมากรถคันที่เกิดอุบัติเหตุและมาตรงศาลแห่งนี้ไม่มีใครตายสักคนซึ่งเหมือนนกับว่าเจ้าที่เจ้าทางท่านไม่ให้มีใครได้รับบาดเจ็บหรือมาตายตรงนี้

ชาวบ้านในพื้นที่ยังระบุว่าศาลพระภูมิแห่งนี้ถูกตั้งขึ้นโดยคนขายไก่ย่างที่ฝันเห็นดวงวิญญาณตายายมาบอกว่าอยากมีบ้าน ทำให้เขาตั้งศาลให้ จากนั้นก็ทำมาค้าขายรุ่งเรือง นางหมุ่ยยังกล่าวเพิ่มเติมว่าอยากให้เจ้าของรถเก๋งคันที่เกิดอุบัติเหตุจัดสร้างศาลใหม่ทดแทนศาลเดิมที่เสียหาย และด้วยความเชื่อส่วนตัว ก็จะนำหมายเลขทะเบียนรถ 9 XX 4852 ของรถเก๋งคันที่ชนไปเสี่ยงโชคด้วย

ด้านกู้ภัยขณะเดินตรวจสอบในจุดเกิดเหตุยังพบรูปปั้นตายายกระเด็นออกมานอกศาลจึงรีบเก็บนำไปวางกองไว้กับศาลพระภูมิที่แตกหักพังในทันทีทั้งยังพูดเปรยว่าสงสัยเจ้าที่ท่านจะบาดเจ็บเล็กน้อย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุทำการสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป