20 ก.พ. 2568 พี่สาวพยาบาล เผยนิสัยแท้จริงน้อง ยืนยันหัวอ่อนไม่สู้ใคร โทนเสียงแข็งเพราะสถานการณ์บังคับ คู่กรณีไม่เคยออกมาขอโทษได้ยินแค่ในโหนกระแสเท่านั้น
จากกรณีพยาบาลสาวรายหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความหลังถูกญาติคนไข้ตบหน้าในโรงพยาบาล สาเหตุเพราะไม่พอใจที่พยาบาลคนดังกล่าวเตือนภรรยา ให้คำแนะนำเรื่องห้ามนำเด็กเข้าห้อง ICU เยี่ยมผู้ป่วยจากภาวะปอดติดเชื้อ จากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จนทำให้เกิดความไม่พอใจและนำไปสู่ เหตุการณ์บานปลายเป็นการทำร้ายพยาบาล โดยตบหน้าพยาบาล 2 ครั้งโดยอ้างว่าบันดาลโทสะ จากกรณีที่พยาบาลใช้คำพูดไม่เหมาะสมนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.สภ.เมืองระยอง กล่าวถึงกรณีญาติคนไข้ชายหากออกหมายเรียกครบ 3 ครั้งตามกฎหมาย ถ้าไม่มาพบพนักงานสอบสวน ก็จะขอศาลออกหมายจับ แต่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน
ขณะที่ พี่สาวของน้องปาย พยาบาลผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายร่างกายกล่าวกับสื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ที่อาคารมาลีนนท์ พร้อมกับมี นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมฟังข้อเท็จจริง โดยข้อมูลล่าสุดจากพี่สาวนั้นระบุหลังจากมีการได้โทรศัพท์คุยกับน้องสาวตัวเองซึ่งยังร้องไห้เสียใจ
ปัจจุบันแม้จะผ่านเหตุการณ์มาแล้วแต่คนในครอบครัวยอมรับไม่ได้ เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ พี่สาวผู้เสียหายมองว่าหากมีอะไรไม่พอใจควรพูดคุยกันก่อน ควรทำตามมาตรการไม่ใช่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ โดยที่เห็นคือ “น้องถูกฟาดไปที่หน้า 2 ครั้ง” ถ้าไม่มีใครห้ามน่าจะมีครั้งที่สามแน่ๆ มองเจตนาจะเข้ามาทำร้าย โดยที่น้องไม่รู้ตัวจึงไม่ได้ปัดป้องหรือป้องกันตัว
พี่สาวยืนยันลักษณะนิสัยปกติน้องเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนง่าย เป็นน้องคนเล็กสุด หัวอ่อนไม่สู้ใคร ส่วนการใช้โทนเสียงก็ตามสถานการณ์นั้นๆ ส่วนคู่กรณีไม่เคยออกมาขอโทษเลยตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ตนได้ยินแค่ในรายการ (โหนกระแส) เท่านั้น ยังยืนยันดำเนินการต่อไปถึงที่สุด
