แฟนสาวมีความต้องการสูง! คบกันเพียง 2 เดือน ต้องซื้อถุงยาง 6,000 บาท หนุ่มขอคำแนะนำ หารค่าใช้จ่ายได้ไหม?
ใครควรเป็นคนจ่ายค่าถุงยาง? แบ่งกันจ่ายอย่างไรถึงจะยุติธรรม? เมื่อไม่นานมานี้ ชายชาวไต้หวันคนหนึ่งโพสต์ถาม เนื่องจากแฟนสาวมีความต้องการสูง ทำให้ใช้ “ถุงยางอนามัย” บ่อย และต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย ทุกคนคิดว่าควรแบ่งกันอย่างไรถึงจะเหมาะสม? โพสต์นี้สร้างกระแสถกเถียงในหมู่ชาวเน็ต
หนุ่มรายหนึ่งโพสต์ใน Dcard แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของไต้หวัน หัวข้อ “จะแบ่งค่าถุงยางอย่างไรให้ยุติธรรม” โดยเขาเล่าว่า ตัวเองมีความต้องการปกติ แต่แฟนสาวมีความต้องการมากกว่า ทำให้เขามักจะต้องตามใจเธอ ทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน 5-10 ครั้งต่อสัปดาห์ จึงต้องใช้ถุงยางเป็นจำนวนมาก
เจ้าของโพสต์ เล่าว่า เขามักได้ยินว่าค่าถุงยางควรเป็นหน้าที่ของฝ่ายชาย แต่หลังจากคบกับแฟนมาเพียง 2 เดือน เขาก็ใช้เงินไปแล้วกว่า 6,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ประมาณ 6,300 บาท) กับถุงยาง ทำให้รู้สึกว่าเงินหมดไปไวมาก อีกทั้งการมีแฟนยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ อีก แฟนสาวจึงเคยเสนอว่าเธอสามารถช่วยออกค่าถุงยางได้บ้าง ทำให้เขารู้สึกสงสัยว่า ควรแบ่งค่าใช้จ่ายนี้อย่างไรจึงจะเหมาะสม
หลังโพสต์เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นในทางตำหนิ เช่น “เป็นผู้ชายหรือเปล่า แค่ค่าถุงยางยังจะให้แฟนช่วย จัดการตัวเองไปเถอะ” หรือ “ถ้าจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องค่าถุงยางก็ใช้ของปลอมไปเลยดีกว่า” บ้างก็ว่า “อย่าคิดมากเรื่องค่าถุงยางเลย ถึงการมีเพศสัมพันธ์จะสนุกทั้งสองฝ่าย แต่ผู้หญิงต้องรับภาระเรื่องสุขภาพมากกว่า” และ “ฉันยังจ่ายค่าคุมกำเนิดเองเลย ถ้าผู้ชายมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องถุงยาง ฉันจะเลิกกับเขาแน่นอน”
นอกจากนี้ ยังมีคนแนะนำว่า “ลองซื้อแบบประหยัด หรือลดจำนวนครั้งลง การขอให้แฟนช่วยออกเงินค่าถุงยางมันดูเสียศักดิ์ศรีไปหน่อยนะ”