เปิดภาพบ้าน วีรบุรุษเนิน 350 พลทหารวุ้น ผู้สละชีวิตเพื่อแผ่นดิน

เปิดภาพบ้าน วีรบุรุษเนิน 350 พลทหารวุ้น ผู้สละชีวิตเพื่อแผ่นดิน

ข่าวภูมิภาค

เปิดภาพบ้าน วีรบุรุษเนิน 350 พลทหารวุ้น ผู้สละชีวิตเพื่อแผ่นดิน

จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านสมรภูมิเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ส่งผลให้กองทัพไทยต้องสูญเสียกำลังพลเพิ่มเติมอีก 2 นาย ได้แก่ จ่าสิบเอกเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา หรือ พลทหารวุ้น สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน.3) ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบร่างทหารทั้งสองนาย และลำเลียงออกจากพื้นที่ปะทะมายังโรงพยาบาลค่ายแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์ ก่อนประกอบพิธีทางทหารอย่างสมเกียรติ

สำหรับ พลทหารวุ้น ภานุพัฒน์ เสาร์สา มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยร่างได้เคลื่อนย้ายมาบำเพ็ญกุศลที่ วัดกลาง จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 21 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปยังบ้านของพลทหารวุ้น ตั้งอยู่ที่บ้านตาเม็ง ตำบลห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พบว่าเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว สภาพทรุดโทรม โดยมี นางอุไร ทัคเก้อ อายุ 45 ปี ป้าของพลทหารวุ้น เฝ้ามองสิ่งของหลาน และจับต้องด้วยความคิดถึง พร้อมจุดธูปเทียนสื่อถึงหลานชายที่รักได้กลับมาแล้ว

นางอุไร เปิดเผยว่า นอกจากจะมาบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้มาเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าคู่โปรดของพลทหารวุ้น ซึ่งหลานชายเคยบอกว่าเป็นรองเท้าที่ใส่สบาย เหมาะกับการปฏิบัติภารกิจในสนามรบ พร้อมเล่าว่า ตนกับหลานชายสนิทกันมาก ทุกครั้งที่พลทหารวุ้นกลับจากปฏิบัติหน้าที่ มักจะมาใช้เวลาอยู่ที่บ้าน เป็นคนเข้มแข็ง และมักพูดเสมอว่าจะออกรบเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย หลังการรบครั้งแรก พลทหารวุ้นเคยกลับมาเล่าให้ฟังว่าถูกกระสุนยิงเฉียดศีรษะ โชคดีที่สวมหมวกนิรภัย ทำให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และยืนยันกับตนว่าไม่เป็นอะไรมาก

นางอุไร เปิดเผยอีกว่า หลังทราบข่าวการเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา พลทหารวุ้นได้มาเข้าฝันเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม โดยในฝันเห็นหลานชายมาปรากฏตัวบริเวณหน้าห้องน้ำ และบอกว่าถูกยิงเข้าที่หน้าอก ล้มลงและหมดสติไป พร้อมบอกว่าหากกองทัพไทยสามารถยึดเนิน 350 ได้สำเร็จ จึงจะพบร่างและสามารถนำกลับมาได้ เนื่องจากจะช่วยสู้รบจนภารกิจสำเร็จเมื่อทราบข่าวว่ากองทัพไทยสามารถยึดเนิน 350 ได้ รู้สึกดีใจและขอขอบคุณทหารไทยแนวหน้าทุกนายที่ร่วมกันต่อสู้จนประสบความสำเร็จ พร้อมย้ำว่าภูมิใจอย่างยิ่งที่หลานชายได้เสียสละชีวิต และกลายเป็นวีรบุรุษของคนไทยทั้งประเทศ

 

ขณะที่ ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดศรีสะเกษ (ภัยทางอากาศ/อันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังนอกประเทศ) โดยเป็นการประชุมติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่าง ไทย-กัมพูชาในพืนที่ ตามแนวชายแดนของจังหวัด ประกอบด้วย การประเมินสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือประชาชนตามศูนย์อพยพ ในเรื่องของปัญหาอุปสรรคของศูนย์พักพิงแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ หลังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประชุมแล้วเสร็จ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ด้านที่พักอาศัยของพลทหารวุ้น นั้น ตนได้สั่งการให้โยธาธิการและผังเมือง ลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังดังกล่าวแล้ว เพื่อตรวจสอบสภาพบ้านว่าเป็นเช่นไร ซึ่งตอนนี้ได้ลงสำรวจแล้ว ส่วนในขั้นตอนการดำเนินการอื่นๆ อยู่ในระหว่างดำเนินการพิจารณาต่อไป