หลาน 6 ขวบมี “ฟันสองชั้น” แพทย์ยังส่ายหน้า หลังรู้วิธีเลี้ยงแบบ “กลัวสำลัก” ของคุณย่า!

เรื่องราวของเด็กหญิงวัย 6 ขวบจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ หลังพบว่าลูกมี “ฟันสองชั้น” เพราะการเลี้ยงดูที่ถนอมเกินไป จนส่งผลเสียต่อพัฒนาการของฟันอย่างรุนแรง

คุณแม่ของหนูน้อย “เหมยเหมย” เล่าว่า ระหว่างที่ลูกกำลังกินอาหาร อยู่ๆ ฟันหน้าก็รู้สึกโยกและเจ็บมากเมื่อกัดอาหาร พอเปิดปากดูใกล้ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าลูกมีฟันหน้าซ้อนกันถึง 2 ชั้น จึงรีบนำตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลทันตกรรมมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นทันที แพทย์วินิจฉัยว่า ฟันน้ำนมของเด็กหญิงยังไม่หลุดออกตามปกติ ขณะที่ฟันแท้กำลังงอกขึ้นมา ส่งผลให้เกิด “ฟันสองแถว” ซึ่งหากปล่อยไว้จะส่งผลเสียต่อการเรียงตัวของฟันและพัฒนาการขากรรไกรในระยะยาว

เมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมการกินพบว่า สาเหตุหลักมาจากการที่ครอบครัว โดยเฉพาะคุณย่า มักเตรียมอาหารแบบอ่อนนุ่มมากเกินไป ตั้งแต่เด็กๆ มักจะบดละเอียดหรือปั่นเป็นเนื้อเดียว ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก หรือแม้กระทั่งเนื้อสัตว์ และยังหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องเคี้ยวมากๆ เพราะกลัวว่าเด็กจะสำลัก อาหารติดคอ หรือเคี้ยวไม่ไหว

แพทย์เผยว่า พฤติกรรมเช่นนี้ส่งผลให้เด็กไม่ได้ใช้งานฟันอย่างเหมาะสม รากฟันน้ำนมจึงไม่ถูกกระตุ้นให้สลายตัวตามธรรมชาติ ทำให้ฟันแท้ไม่สามารถขึ้นมาแทนที่ได้ตามลำดับ ส่งผลให้เกิดปัญหาฟันซ้อน ฟันเก และโอกาสที่ฟันแท้จะขึ้นผิดตำแหน่งมีสูง นอกจากนี้ หากไม่รักษาทันที อาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านใบหน้า การสบฟัน และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาช่องปากเรื้อรัง เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ในอนาคตอีกด้วย

“ปกติฟันน้ำนมจะเริ่มหลุดเมื่ออายุประมาณ 6 ขวบ และกระบวนการเปลี่ยนฟันจะใช้เวลานานถึง 6 ปี เด็กจะต้องเปลี่ยนฟันน้ำนมทั้งหมด 20 ซี่” แพทย์ระบุ