หนุ่มวัย 23 นิ่วใหญ่เต็มถุงน้ำดี แค่เพราะ “กินไข่ทุกวัน” กลับต้องทรมาน หมอชี้จุดพลาด?!

หลายคนอาจไม่รู้ว่า “การกินไข่มากเกินไป” โดยเฉพาะเพื่อหวังลดน้ำหนัก อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น “นิ่วในถุงน้ำดี” โดยที่ไม่แสดงอาการใดๆ เลย
ตามรายงานจากสื่อเวียดนาม ผู้ป่วยชายวัย 23 ปี ตรวจสุขภาพตามปกติที่โรงพยาบาลธูดึ๊ก เมืองโฮจิมินห์ และพบความผิดปกติในถุงน้ำดี ผลอัลตราซาวนด์เผยให้เห็นนิ่วหลายก้อน โดยก้อนที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดใกล้เคียงไข่นกกระทา ทั้งที่ผู้ป่วยไม่มีอาการเจ็บปวด ดีซ่าน หรือคลื่นไส้แต่อย่างใด
เมื่อสอบถามพฤติกรรมการกิน ผู้ป่วยยอมรับว่า เขา “กินไข่ทุกวัน” เพราะเชื่อว่าไข่ช่วยควบคุมน้ำหนัก และเป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อการรักษารูปร่าง
“ไข่” ประโยชน์สูง แต่เสี่ยงหากกินมากเกินไป
ไข่ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ อย่างไรก็ตาม ไข่แดงมีคอเลสเตอรอลในปริมาณมาก ซึ่งสามารถจับตัวกับเกลือน้ำดีจนกลายเป็นนิ่วได้หากสะสมในร่างกาย
แพทย์เตือนว่า การกินไข่จำนวนมากเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหากไม่ออกกำลังกาย หรือขาดอาหารที่มีกากใย อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้
กรณีศึกษาจากผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการกินไข่
VnExpress รายงานว่า มีผู้ป่วยหลายรายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี เช่น กรณีของพนักงานฟิตเนสในฮานอย ซึ่งกินไข่วันละ 10 ฟอง และตั้งเป้าลดน้ำหนัก 6 กิโลกรัมภายในหนึ่งเดือน
เพียงสองสัปดาห์ เธอมีอาการเหนื่อยล้าและหมดสติ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะที่อีกกรณีหนึ่ง กินไข่วันละ 9 ฟอง ร่วมกับควบคุมแคลอรีต่ำกว่า 900 กิโลแคลอรีต่อวัน แม้น้ำหนักจะลดลง แต่เธอกลับรู้สึกวิงเวียน ผิวซีด และอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
กินไข่อย่างไรให้ปลอดภัย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใหญ่ควรบริโภคไข่ในปริมาณที่เหมาะสม คือไม่เกิน 2–3 ฟองต่อวัน และไม่ควรกินติดต่อกันทุกวัน ควรเว้นช่วง เพื่อไม่ให้ตับและถุงน้ำดีทำงานหนักเกินไป
ไข่แม้มีประโยชน์ แต่หากรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย อาจกลายเป็นภาระต่อระบบย่อยอาหาร ระบบหัวใจ และหลอดเลือดได้เช่นกัน
ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ต้องวางแผนอย่างถูกต้อง
แพทย์เน้นว่า การลดน้ำหนักควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของนักโภชนาการ ไม่ควรทำตามสูตรอาหารที่เห็นทางโซเชียลแบบไม่ตรวจสอบ เพราะอาจก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญอย่างรุนแรง
ในกรณีของผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะอ้วนรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การปรับพฤติกรรม การใช้ยา หรือการผ่าตัด โดยต้องมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
สรุปคือ “ไข่กินดี” แต่ต้องกินให้ถูกวิธี
ไข่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่หากกินมากเกินไป โดยเฉพาะเพื่อหวังลดน้ำหนัก อาจกลายเป็นสาเหตุของนิ่วในถุงน้ำดีโดยไม่รู้ตัว การกินอย่างพอดี ร่วมกับการออกกำลังกาย และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและยั่งยืนที่สุดในการดูแลสุขภาพ
Beta feature
Beta feature