อากาศอันตรายมาก!! คาดก๊าซพิษฟุ้งในอากาศ 7 วัน ขณะที่ช่วยบ่าย ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก

อากาศอันตรายมาก! คาดก๊าซพิษฟุ้งในอากาศ 7 วัน ขณะที่ช่วยบ่าย ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
วันที่ 12 พ.ค. 2568 นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทราบว่ายังมีแสงเพลิงอยู่ในอาคารที่ 3 ของโรงงาน คิดเป็นประมาณ 20% โดยด้านข้างของโรงงานที่ติดกับซอย เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่อีกด้านของโรงงานยังคงมีควันดำพวยพุ่งออกมา ซึ่งแนวทางปฏิบัติการต่อจากนี้จะนำรถมาเจาะเปิดกำแพงด้านข้าง เพื่อลำเลียงน้ำเข้าไปดับเพลิงที่ชั้นใต้ดินที่เพลิงยังลุกไหม้อยู่ ซึ่งคาดว่าจะควบคุมเพลิงได้ดีขึ้น แต่เพื่อความไม่ประมาท ก็มีการเตรียมโฟมเคมีจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมและภาคีเครือข่ายไว้พร้อมเข้าปฏิบัติการเช่นกัน
อย่างไรก็ตามจากการตรวจวัดสภาพอากาศรัศมี 300 เมตรจากโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้ พบค่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีทั้ง PM 2.5 , เขม่าดำ , ก๊าซพิษทั้งคาร์บอนมอนอกไซด์ , สไตรีน , และฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งหน้ากากอนามัยทั่วไป ไม่สามารถป้องกันได้ ต้องใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 ขึ้นไปเท่านั้น และหากฝนตกในขณะที่ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ ก็จะชะล้างสารพิษเหล่านี้และก๊าซพิษต่างๆ ให้ตกลงมาและกระจายออกด้านข้างมากกว่านี้ ทำให้จำเป็นต้องปิดศูนย์พักพิงโรงเรียนลำพะอง และอพยพประชาชนที่อยู่ศูนย์พักพิงจุดนี้ไปยังศูนย์พักพิงแห่งใหม่ที่โรงเรียนวัดสุทธาโภชน์ ซอยฉลองกรุง 8 และระหว่างนี้ก็ต้องเร่งดับเพลิงให้อยู่
โดยสารพิษเหล่านี้จะคงอยู่ในอากาศรัศมี 300 เมตรต่อไปอีก 5-7 วัน ดังนั้นสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ปิดบ้านให้มิดชิด ใช้เทปพลาสติกปิดซีลตามขอบประตูขอบหน้าต่างทั้งหมด ห้ามเปิดแอร์ แต่ให้เปิดพัดลมระบายอากาศแทน หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่อันตราย ก็ให้อยู่แต่ในบ้าน หากออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย N95 ขึ้นไป ทั้งนี้สารพิษเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกมึน วิงเวียนศีรษะ หายใจไม่ออก ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจและเยื่อบุตา ระคายเคืองผิวหนัง เบื้องต้นสามารถล้างออกได้ด้วยน้ำสบู่ แต่ถ้าเข้าสู่ร่างกายไปแล้ว ไม่สามารถชำระล้างได้
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้สำนักงานเขตลาดกระบัง ศูนย์บริการสาธารณสุข กระจายกันออกไปทำความเข้าใจกับประชาชนในชุมชนที่อยู่ใต้ลม หรือทางด้านท้ายโรงงาน โดยยังมีกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในรัศมีอพยพประมาณ 12 คน ที่เจ้าหน้าที่สำนักอนามัยร่วมกับแพทย์ที่เกี่ยวข้องเข้าไปประชาสัมพันธ์ให้อพยพแล้ว
ส่วนเจ้าของโรงงานซึ่งเป็นคนไทย ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งก็ให้ข้อมูลว่ามีเม็ดพลาสติกอยู่ในโรงงานกว่า 300 ตัน ซึ่งถือว่าเยอะมาก แต่ก็เผาไหม้ไปเกือบหมดแล้ว และพื้นโรงงานมีการทรุดไปยังพื้นด้านล่างบางส่วน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่จัดการดับเพลิงเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็จะเข้าตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป ยังไม่ขอคาดการณ์ถึงสาเหตุเพลิงไหม้
ด้านผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างให้ฝ่ายโยธาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องการก่อสร้างอาคารและใบอนุญาตต่างๆ ของโรงงานต่อไป
ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 14.10 น. ทีมข่าวพบว่ากลุ่มการเริ่มมีการเปลี่ยนทิศทางพัดเข้าสู่ศูนย์พักพิงภายในโรงเรียนลำพะอง ทั้งเวลา 14.17 น. มีกลุ่มฝนขนาดใหญ่ตกลงมาจนทำให้กลุ่มควันดังกล่าวจางหายไปและใน