เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 68 เพจ เตือนภัยพิบัติฝนฟ้าอากาศ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

ด่วนสุดประกาศเตือนพายุฤดูร้อน เตรียมตัวรับแรงปะทะ ระวังอันตรายจากลมกระโชกอย่างรุนแรง ระวังอันตรายจากมีฟ้าแลบฟ้าผ่าตลอดเส้นทางของกลุ่มเมฆฝนโดยเฉพาะบริเวณใต้ฐานเมฆ บางพื้นที่อาจมีลูกเห็บตกและอาจมีฝนหนักเป็นบางพื้นที่ พื้นที่เสี่ยงภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง

พื้นที่เสี่ยงพายุฤดูร้อน น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก แพร่ ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร กาญจนบุรี อุทัยธานี เพชรบุรี ราชบุรี กรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ฉะเชิงเทรา สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ชัยภูมิ อุดรธานี เพชรบูรณ์ มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย เลย ลักษณะสภาพอากาศโดยทั่วไป ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยปกคลุมประเทศไทยตอนบน ขณะที่ลม 5,500 เมตรเป็นกระแสลมฝ่ายตะวันตกที่ไม่กดทับ ประกอบกับมีความร้อนสะสมหรือความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศไทยเฉลี่ยอุณหภูมิสูงสุดช่วงบ่าย35-40 องศาเซลเซียส

พายุฤดูร้อนอาจจะมีความรุนแรงมากให้ระมัดระวัง อาจจะเริ่มสตาร์ทตั้งแต่ช่วงเที่ยงยาวไปจนถึงช่วงดึกหรือจนกว่าจะหยุด พยากรณ์อากาศ 12 มีนาคม 2568

พายุฤดูร้อนมักเกิดขึ้นช่วงบ่ายและเย็น เพราะมีปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้

1. ความร้อนสะสมตลอดวัน ตอนกลางวัน ดวงอาทิตย์ให้ความร้อนแก่พื้นดิน ทำให้อากาศบริเวณนั้นร้อนและลอยตัวขึ้น เมื่อถึงช่วงบ่ายถึงเย็น อากาศร้อนลอยขึ้นสูงสุด ทำให้เกิดกระแสลมแนวตั้งที่แรง

2. อากาศเย็นจากที่สูงเข้ามาปะทะ เมื่ออากาศร้อนลอยขึ้นสูง มันจะไปชนกับอากาศเย็นด้านบน ทำให้เกิดการควบแน่นของไอน้ำ เมฆก่อตัวหนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมฆฝนฟ้าคะนอง (Cumulonimbus)

3. ความชื้นในอากาศสูง ฤดูร้อนมีไอน้ำในอากาศสูง พอเกิดการยกตัวของอากาศ เมฆฝนก็พัฒนาได้เร็ว

4. ลมเปลี่ยนทิศทาง (Wind Shear) ตอนบ่ายถึงเย็น ลมที่ระดับความสูงต่าง ๆ มีการเปลี่ยนทิศทางมากขึ้น ทำให้เกิดกระแสลมแรง กระแสลมนี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ง่ายขึ้น

5. กระบวนการระบายความร้อนของโลก พอตกเย็น พื้นดินเริ่มเย็นลง อากาศที่ร้อนยังคงลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำให้เกิดการปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศ ทั้งหมดนี้ทำให้พายุฤดูร้อนชอบเกิดในช่วงบ่ายถึงเย็น แล้วมักจะมีลมกระโชกแรง ฟ้าร้องฟ้าผ่า และฝนตกหนักในระยะเวลาสั้น ๆ

ขอบคุณ เพจ เตือนภัยพิบัติฝนฟ้าอากาศ