เว็บระดับโลก จัดอันดับ 2 น้ำ ดื่มไปเหมือน “ลงโทษตับ” อันตรายมากที่สุด คนไทยดื่มกันทุกวัน!
.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
เว็บไซต์ด้านโภชนาการระดับโลก จัดอันดับ 2 เครื่องดื่ม บริโภคเป็นประจำเหมือนกับการ “ลงโทษตับ” เป็นอันตรายมากที่สุด แต่คนยังดื่มกันทุกยุค!
ตับเหมือนกับเครื่องกรองเลือดของร่างกาย ซึ่งทำงานหลายพันล้านภารกิจสำคัญในชีวิต และหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการกรองสารพิษออกจากเลือด ทุกสิ่งที่คุณรับประทานผ่านทางระบบย่อยอาหารจะถูกกรองผ่านตับ เกือบทุกมิลลิลิตรของเลือดในร่างกายคุณจะต้องไหลผ่านตับ ตับจะแยกและทำความสะอาดสารเคมี สารอาหาร ยา แอลกอฮอล์ และสารพิษต่างๆ ในเลือดก่อนที่เลือดจะไหลไปทั่วร่างกาย
หากตับไม่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่างกายของคุณจะถูกสารพิษล้อมรอบ และตามข้อมูลจากเว็บไซต์ด้านโภชนาการของสหรัฐอเมริกา Eat This, Not That! ระบุว่าสิ่งที่เราดื่มเข้าไปในร่างกายนั้น สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อตับ โดยย้ำเตือนถึง 2 เครื่องดื่มที่ “ควรหลีกเลี่ยง” เนื่องจากเป็นอันตรายต่อตับที่สุด พร้อมอธิบายเหตุผลว่าที่ชัดเจนว่าทำไมมันถึงเป็นอันตราย
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” จะถูกจัดอันดับเป็นอันตรายต่อการทำงานของตับ ผู้คนรู้ดีว่าการดื่มมากเกินไปสามารถทำให้เกิดโรคตับแข็ง ซึ่งจะทำให้เนื้อตับที่มีสุขภาพดีถูกแทนที่ด้วยเนื้อตับที่เป็นแผลเป็น และในที่สุดอาจนำไปสู่การเสียชีวิต หรือจำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายตับเพื่อความอยู่รอด
แต่การเกิดความเสียหายไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ตามระบบการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา Johns Hopkins Medicine ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะผ่านหลายขั้นตอนก่อนที่ตับจะเสียหาย ขั้นตอนสำคัญคือการสะสมไขมันภายในเซลล์ตับ ที่เรียกว่าไขมันพอกตับ และการอักเสบเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์ ซึ่งจะนำไปสู่การตายของเซลล์ตับและการสร้างแผลเป็น กระทั่งตับแข็งซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่อันตรายมากของโรคไขมันพอกตับ
“เกือบทุกคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากๆ แม้แค่ในคืนเดียวก็จะมีภาวะไขมันพอกตับในระดับใดระดับหนึ่ง” Dr.Rockford Yapp แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาล Advocate Good Samaritan ในสหรัฐอเมริกา กล่าว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กำหนดว่าการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป คือการดื่มมากกว่า 15 แก้วต่อสัปดาห์สำหรับผู้ชาย และ 8 แก้วต่อสัปดาห์สำหรับผู้หญิง ซึ่งหนึ่งแก้วจะเท่ากับเบียร์ 350 มล. ไวน์ 150 มล. หรือสุรา 45 มล. ข่าวดีคือ ไขมันพอกตับสามารถฟื้นฟูได้ โดยจะจะค่อยๆ หายไป หากหยุดดื่มแอลกอฮอล์
น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
หากใส่ใจสุขภาพ คงทราบดีว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลคือสาเหตุหลักของการเกิดโรคอ้วน แต่รู้ไหมว่าน้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล ล้วนสามารถเพิ่มไขมันในตับได้ โดยน้ำตาลและไซรัปในเครื่องดื่มเหล่านี้ จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันโดยตับ จากนั้นไขมันเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ในเซลล์ตับ ซึ่งนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ (NAFLD) ซึ่งมีผลกระทบต่อ 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
ในความเป็นจริง โรคอ้วนและเบาหวานประเภท 2 ถูกมองว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะตับไขมันตามข้อมูลจาก American Gastroenterological Association ขณะที่ Dr. Waqas Mahmood แพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า “ในบรรดาเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล น้ำอัดลมคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำร้ายตับ”
แล้วกาแฟล่ะ? ผลกระทบของกาแฟต่อสุขภาพตับขึ้นอยู่กับวิธีการดื่ม หากดื่มกาแฟแบบธรรมดา กาแฟอาจจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพตับ เพราะกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด รวมถึงมะเร็งตับ แต่ถ้าดื่มกาแฟที่มีน้ำตาลมาก การดื่มกาแฟนั้นก็อาจเป็นอันตรายเหมือนน้ำอัดลมได้เช่นกัน
Beta feature
Beta feature